นครศรีธรรมราช : โจรชิงทอง 21 บาท หนีไม่รอด หลังก่อเหตุแอบซ่อนตัวในก่อไผ่ริมคลอง ตร.ปิดล้อมจับกุมพร้อมของกลาง ทองคำหนัก 21 บาท 5 เส้น ครบและอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ รับสารภาพต้องการนำเงินไปใช้หนี้การพนัน
วันที่ 10 มกราคม 2567 หลังเกิดเหตุการณ์ระทึกคนร้ายสวมชุดดำ สวมหมวกกันน๊อคสีดำเต็มใบพร้อมอาวุธปืนพกสั้น บุกเข้าไปจี้ชิงทองร้านทอง ‘ศิริพร’ กลางตลาด อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 14.00น.วันที่ 9 ม.ค.67 โดยคนร้ายได้จี้ชิงทอง เป็นสร้อยข้อมือจำนวน 5 เส้น หนักรวม 21 บาท หลบหนีไป ก่อนทิ้งรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้าสกู๊ปปี้ สีดำ เข้าป่าไป และศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อนุมัติออกจับคนร้ายรายนี้ คือนายชัยวุฒิ เวทยาวงศ์ วัย 53 ปี ไปแล้วนั้น
โดยในช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน สนธิกำลังกับตำรวจสืบสวนภาค 8 และ ตชด.42 พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง กว่า 100 นาย นำสุนัขดมกลิ่น ออกไล่ล่าตัวจนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่าไผ่ ริมคลองกลาย หลังวัดชุมโลง ม.1 ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับของกลางที่ถูกปล้นไปทั้งหมด เป็นสร้อยข้อมือทองคำ 5 เส้น น้ำหนักรวม 21 บาท มูลค่า 714,000 บาท, และอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ลำกล้องขนาด 11 มม. 1 กระบอก พร้อมยานพาหนะ ที่ใช้ก่อเหตุ โดยควบคุมตัวมาทำการสอบสวนปากคำอย่างละเอียดต่อที่ สภ.ท่าศาลา ก่อนแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
ด้าน พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางมาสอบสวนปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง ซึ่ง นายชัยวุฒิ เวทยาวงศ์ อายุ 53 ปี ผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ต้องการนำเงินไปใช่หนี้การพนันที่ตนเองเป็นหนี้อยู่กว่า 1 แสนบาท โดย ผบช.ภ.8 ได้กล่าวขอบคุณ และชื่นชมตำรวจนครศรีธรรมราชทุกนาย ทุกหน่วย ที่ระดมกำลังกันจนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญที่ตำรวจจะต้องหามาตรการเข้มป้องกันเหตุคนร้ายชิงทองที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกในอนคต
