นครศรีธรรมราช : แม่ช้ำใจหนัก! อัดคลิประบาย ส่งร้องสื่อ หลังคดีไม่คืบ เหตุลูกชายวัย 10 ขวบ ถูกผู้ปกครองของเพื้นร่วมชั้น บุกเข้าทำร้ายร่างกาย ตบศีรษะจนหัวทิ่ม คาโรงเรียน แจ้ง ผอ.กลับเมิน บอกเกินหน้าที่ความรับผิดชอบ ตัดสินใจยอมย้ายลูกชายไปเรียนที่อื่น แถมเข้าแจ้งความที่ สภ.พรหมคีรี แนะ ให้ไปหาหลักฐานมา อย่ากล่าวหาลอย ๆ
วันที่ 14 มกราคม 2567 นางสาวมนัญญา ทองสมัคร อยู่บ้านเลขที่ 34/2 หมู่ 3 ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้ปกครองของเด็ก ด.ช.กฤษ อดีตนักเรียนชั้นปถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดพรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ได้อัดคลิประบายความในใจ และร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน ให้ช่วยนำเสนอข่าว เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้เป็นกรณีตัวอย่าง รวมถึงตีแผ่สิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชายของตนเอง
หลังจากที่ลูกชายได้ถูกผู้ปกครองของเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่ง บุกเข้ามาทำร้ายร่างกายถึงภายในโรงเรียน โดยไม่ได้รับความเป็นธรรมจากทางผู้บริหารโรงเรียน รวมถึงคดีความก็ไม่มีความคืบหน้า การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจดูค่อนข้างล่าช้า แถมให้เป็นภาระของทางผู้เสียหายต้องดิ้นรนค้นหาหลักฐานเพื่อไปมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง ๆ ที่น่าจะเป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่เอง กระทั่งระยะเวลาผ่านไปนานนับสัปดาห์ ก็ยังไม่สามารถเรียกตัวผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้
น.ส.มนัญญาได้เล่าเหตุการณ์สุดช้ำผ่านคลิปวีดีโอ ว่า ลูกชายของตนเอง ( ด.ช.กฤษ) กับเพื่อนอีกคน ( ด.ช.ไนท์) ที่ถูกทำร้ายร่างกายด้วยกัน รวมถึง (ด.ช.คิม) เพื่อนร่วมชั้น (ฝ่ายคู่กรณี) ได้เล่นเกมส์ออนไลน์ (ฟีฟาย) ด้วยกัน ขณะเล่นมีการใช้คำพูดว่าจา คล้ายการด่าทอบุพการี ด่ากันไปมา ตามประสาเด็ก ซึ่งก็เป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่เล่นเกมส์ด้วยกัน เปรียบได้ว่าเป็นการอุทานแบบบ้าน ๆ กระทั่งวันหนึ่ง ด.ช.คิม ได้นำความไปฟ้องน้า ผู้เป็นปกครอง โดยน้าของ ด.ช.คิม ได้ฝากข้อความกลับมาข่มขู่ลูกชายของตนเอง ว่า ‘หากยังเล่นเกมส์และมีการด่าทอกันอีก จะมาตบหน้า ให้ถึงโรงเรียนเลย’ กระทั่งวันเกิดเหตุ วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 12.37น. ขณะที่ ด.ช.ไนท์ ยืนอยู่แถวบริเวณห้องน้ำภายในโรงเรียน ได้มีผู้หญิงคนหนึ่ง เดินมาถามว่า ที่โรงเรียนมีกล้องวงจรปิดหรือไม่ ซึ่งเด็กก็ได้ตอบไปว่ามี ก่อนที่ ด.ช.ไนท์ จะเดินเข้าไปบอกลูกชายของตนเองที่อยู่ในห้องน้ำ และเดินกลับไปเข้าห้องเรียนตามปกติ จนเวลาผ่านไปสักระยะ ด.ช.ไนท์ และด.ช.กฤษ (ลูกชาย) ได้ขออนุญาตคุณครูไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ เป็นช่วงเวลาที่ลูกชายของตนเองกับเพื่อนอีกคน ถูกผู้ปกครองของ ด.ช.คิม เรียกไปทำร้ายร่างกาย ด้วยการตบเข้าที่บริเวณศีรษะหลายครั้ง จนเด็กทั้ง 2 หัวทิ่มพื้น แถวบริเวณห้องน้ำ โดยผู้ปกครองคนที่ก่อเหตุ ได้ทิ้งท้ายคำพูดไว้กับเด็กทั้ง 2 ว่า ‘หากยังทำอีก กูจะเอาให้หนักกว่านี้เลย’
เหตุการณ์ทั้งหมดเด็กได้มาเล่าให้ตนเองฟัง พร้อมกับตรวจสอบร่างกาย พบว่า ที่บริเวณศรีษะของลูกชาย มีบาดแผล จึงพาไปตรวจร่างกาย ที่ รพ.พรหมคีรี และนำความไปบอกให้ทาง ผอ.โรงเรียนทราบในวันต่อมา โดยตนเองได้ติดตามสอบถามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่ทางโรงเรียนไม่สามารถทำอะไรได้ ตอบได้เพียงว่า เกินความรับผิดชอบของคุณครู เนื่องจากได้เรียกผู้ปกครองของ ด.ช.คิม มาสอบถามแล้ว ทางผู้ปกครองตอบปฏิเสธ ว่า ไม่ได้เป็นคนทำ ตนเองจึงตัดสินใจ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.พรหมคีรี พร้อมกับผลตรวจของทางโรงพยาบาล และภาพถ่ายบาดแผล ซึ่งครั้งแรก ตำรวจไม่รับแจ้งความ พร้อมแนะนำให้ไปหาหลักฐานมา และบอก ว่า จะกล่าวหาใครลอย ๆ โดยไม่มีหลักฐานไม่ได้ ให้กลับไปหาภาพจากกล้องวงจรปิดของทางโรงเรียนมาให้ ซึ่งตนเองก็นึกแปลกใจ ว่า เป็นหน้าที่ของตนเองด้วยหรือ ต่อจากนั้นอีกวัน ตนเองได้เข้าไปที่โรงพักอีกครั้ง แล้วบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า จะไปร้องกับสื่อมวลชน ตำรวจจึงรับแจ้งความในที่สุด พร้อมกับขอเวลาให้ตำรวจได้ทำงานหน่อย กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 1 สัปดาห์ ก็ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี จึงอัดคลิประบายความในใจ และขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน เพื่ออย่างน้อยจะได้เป็นการเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความรับผิดชอบ หันมาสนใจทำคดีมากขึ้น ไม่อยากให้มองแค่ว่าเป็นเพียงคดีเล็ก ๆ เท่านั้น
ก่อนหน้านี้หลายครั้ง น.ส.มนัญญา ได้ใช้ความพยายามในการติดต่อ และเข้าไปขอสำเนาเอกสารทั้งใบแพทย์ และใบบันทึกแจ้งความ เพื่อจะมอบให้กับสื่อมวลชน แต่ก็กลับถูกปฏิเสธ บ่ายเบี่ยง ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควรจากทางตำรวจ กระทั่งล่าสุดวันนี้ ได้เข้าไปขออีกครั้ง ได้มาเพียงใบแจ้งความ ส่วนใบผลตรวจร่างกายนั้น ไม่ได้มา เนื่องจากตำรวจเจ้าของคดี ไม่อยู่ในพื้นที่ จะกลับมาทำงานอีกทีในวันอังคารหน้า
“เหตุกาณ์ครั้งนี้ตนเองอยากให้เป็นอุทาหรณ์ กับผู้ปกครองทุกคน ที่ฝากชีวิตอนาคตไว้กับทางโรงเรียน อยู่ในความดูแลของคุณครู สิ่งที่เกิดขึ้นแม้เป็นเพียงการได้รับบาดเจ็บ หากถึงขั้นสูญเสียชีวิต ใครจะรับผิดชอบ ทั้ง ๆ ที่ขึ้นในรั้วโรงเรียน ในเวลาเรียน แล้วหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ ผู้ปกครองคนอื่น ๆ จะทำอย่างไร หากเกิดขึ้นกับลูกของตนเอง จึงจำเป็นที่จะต้องออกมาปกป้องลูก” น.ส.มนัญญากล่าว
ล่าสุด น.ส.มนัญญา ผู้ปกครองของ ด.ช.กฤษ ได้ตัดสินใจย้ายสถานที่เรียนให้กับลูกชายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยย้ายออกไปเรียนที่โรงเรียนแห่งใหม่เมื่อวานนี้เป็นวันแรก เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ม.ค. 67 ก่อนวันเด็ก 1 วัน เพื่อความปลอดภัยของลูกชาย เนื่องจากหวั่นเกรงว่า จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีก ที่สำคัญ ทางโรงเรียนไม่แสดงความรับผิดชอบใด ๆ ไม่มีความมั่นใจในการดูแลรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนแห่งนี้อีกต่อไป
: อ่านข่าวที่เกี่ยวเนื่องได้ที่ลิงก์ด้านล่าง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: