กรุงเทพฯ : เลขาธิการ ป.ป.ช. ย้ำ ยังมองต่างเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ไม่มีอำนาจยับยั้งโครงการแจกเงินดิจิทัล แจง เตือนไว้ก่อน ดีกว่าต้องไปเอาผิดทีหลัง ยืนยัน ข้อเสนอแนะเป็นหลักวิชาการ ไม่ได้มโน พร้อมรับเสียงตำหนิจากประชาชน แต่ต้องมีเหตุผล
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้แจงถึงผลการศึกษาและข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. ต่อโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล ซึ่งจะจัดส่งให้รัฐบาลใน 2-3 วันนี้ ว่า ป.ป.ช.ทำงานในเชิงป้องกัน ก้าวไปข้างหน้าก่อนเกิดเหตุ และถือว่าทำหน้าที่จบ ด้วยการเสนอแนะและการเฝ้าระวัง จากนี้จะส่งเรื่องต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริต
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ป.ป.ช.ไม่ได้มีอคติ คัดค้าน หรือขัดขวาง การดำเนินโครงการ แต่มีข้อเสนอแนะ เนื่องจากไม่มีอำนาจยับยั้งการดำเนินโครงการ เพราะกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจ ป.ป.ช. เว้นแต่มีความผิดเกิดขึ้น มีการทุจริตไปแล้ว ป.ป.ช. อาจร้องต่อศาล หลังส่งสำนวนไปเพื่อฟ้อง เพื่อยกเลิกการอนุญาต เช่น การเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดิน โฉนด ตามข้อเท็จจริง เป็นขั้นตอนปราบปราม
ส่วนมีความจำเป็นต้องดำเนินการโครงการดังกล่าวหรือไม่ และในมุมมอง ป.ป.ช. โครงการนี้ไม่จำเป็นต้องทำ เนื่องจากยังไม่มีวิกฤติเศรษฐกิจใช่หรือไม่ เลขาธิการ ป.ป.ช.ระบุว่า ตามที่ ป.ป.ช.มีมุมมองว่า อาจจะยังไม่เข้าขั้น แต่ในมุมของรัฐบาล อาจมองว่าวิกฤต เรื่องนี้ ป.ป.ช.ได้ส่งข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลเท่านั้น ไม่ใช่การคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะทุจริตหรือไม่ สุดท้ายแล้วรัฐบาลจะต้องเป็นผู้อภิบายในโครงการนี้ ถ้ามีเหตุมีผลรัฐบาลก็สามารถขับเคลื่อนได้
สำหรับข้อเสนอแนะข้อที่ 8 ที่ระบุว่า การจ่ายเงินเป็นงวด ๆ เป็นการชี้นำให้ดำเนินการเหมือนรัฐบาลชุดก่อนหรือไม่ นายนิวัติไชย ชี้แจงว่า เป็นเพียงการยกตัวอย่างในสิ่งที่เคยมี ป.ป.ช.ไม่ใช่หน่วยงานที่ริเริ่มนวัตกรรมใหม่ ๆ เพียงแต่ยกอันเดิมมา ซึ่งเป็นความเหมาะสมว่ารัฐบาลจะทำได้
เมื่อถามว่า อาจมีประชาชนบางส่วน ตำหนิ ป.ป.ช.เนื่องจากไม่สนับสนุนโครงการนี้ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ถ้าไม่ทำ จะโดนด่ามากกว่าหรือไม่ ทำเพราะเป็นหน้าที่ และยอมรับผลกระทบ เพราะความพึงพอใจแต่ละคนห้ามไม่ได้ แต่ขอให้คุยด้วยเหตุและผล
ถามต่อว่า โครงการนี้เป็นการเอื้อกลุ่มนายทุนหรือไม่ เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ยังไม่เห็นว่าจะมีกลุ่มทุนกลุ่มไหนมาทำ แต่รัฐบาลเป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการนี้ และจะเป็นผู้รับผิดชอบ 8 ข้อเสนอแนะนี้ ซึ่งเป็นข้อเสนอแนะทางวิชาการที่หลากหลายสาขา ไม่ใช่ความคิดเห็นของ ป.ป.ช.ที่คิดเองเออเอง เป็นข้อเสนอแนะให้รัฐบาลพิจารณา ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะขับเคลื่อนโครงการนี้หรือไม่ และถ้ารัฐบาลตัดสินใจทำ ก็ต้องดูการขับเคลื่อนต่อ
ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้เสนอไปหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น การจัดซื้อรถเมล์ NGV โครงการทางหลวง การจัดเก็บเงินรายได้ของกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ความจริง ป.ป.ช.ทำมานานแล้ว ตามพระราชบัญญัติ ป.ป.ช.มาตรา 32 วันนี้ เพิ่มตามมาตรา 35 เข้าไป เพื่อตอกย้ำว่า สิ่งที่ ป.ป.ช.ทำ ดีกว่าไปนั่งเอาผิด ไม่ใช่ปล่อยให้ทำผิด แล้วไปจับผิด
: อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
