กรุงเทพฯ : กลุ่มนักธุรกิจเมืองสุพรรณ หอบหลักฐาน การฉ้อโกงจากบริษัททำบัญชี กว่า 10 ล้านบาท หวังพึ่งตำรวจสอบสวนกลางช่วยดำเนินคดี กลับต้องผิดหวัง กลับบ้านตัวเปล่า หลังได้รับคำตอบ ไม่เข้าเงื่อนไข มูลค่าความเสียหายต้อง 50 ล้านบาทขึ้น จึงจะช่วยได้
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB ใบเตย เจ้าของเพจจัดให้จบ ดอนเมือง พร้อมผู้เสียหาย นำโดยนายธีรยุทธ อายุ 37 ปี เจ้าของธุรกิจ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ทางการเกษตร และผู้เสียหายอีกหลายรายจากบริษัทต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี และนายจิรพงศ์ ทรัพย์สมบูรณ์ ทนายความ หอบหลักฐานการฉ้อโกงเงิน โดยบริษัทรับทำบัญชีแห่งหนึ่งในพื้นที่ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท เข้าพบกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ ให้ตรวจสอบและติดตามดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
- อ่วม... ศาลตัดสินจำคุก 30 ปีเศษ ร่วมชดใช้กว่า 2.7 ล้านบาท บังลุคไม้ใหญ่และพวก คดีตัดไม้ใหญ่ลงติ๊กต๊อกบนภูเขาบ้านสองแพรก
- พุทธศาสนิกชนร่วมทอดกฐินสามัคคีวัดชนาธิการาม เพื่อสมทบทุนซ่อมแซมกุฏิและเสนาสนะยอดเงินทำบุญกว่า 1.7 ล้านบาท
- ท่องเที่ยว ประจวบฯ-เพชรบุรี เติบโตต่อเนื่อง คาดคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ ท่องเที่ยวคึกคักส่งท้ายปี
- ระทึก! ม้าเหล็กขยี้รถเก๋ง โค้ชฟุตบอลรอดปาฏิหาริย์ในเสี้ยววินาที
นาย ธีรยุทธ กล่าวว่า ตนเองเปิดบริษัทมาตั้งแต่เมื่อปี 2560 โดยได้มอบหมายให้สำนักงานบัญชี ดังกล่าว (ไม่ขอเอ่ยนาม) ดำเนินการจัดทำภาษี ส่งให้กับทางสรรพากรตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ในปีแรก ๆ ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ จนระยะหลัง ๆ ได้เกิดความสงสัยว่าทำไม มีการเรียกเก็บค่าภาษี สูงกว่าความเป็นจริง และเรียกถี่มากขึ้น โดยในปี 65 ถูกเรียกเก็บไปกว่า 50 ครั้ง และปีที่ผ่านมา ปี 66 มีการเรียกเก็บมากถึง 71 ครั้ง ซึ่งตนเองได้ร้องขอใบเสร็จกำกับภาษีจากทางสำนักงานบัญชีดังกล่าว กลับถูกปฎิเสธ และบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด กระทั่งไปตรวจสอบกับกรมสรรพากร ทำให้พบว่า ที่ผ่านมาไม่มีการเสียภาษีตามที่ถูกเรียกไป และยังสืบทราบพบอีกว่า ภาษีบางจำพวก ที่ถูกเรียกเก็บจากสำนักงานบัญชีดังกล่าวนั้น ไม่จำเป็นต้องจ่าย จึงทำให้รู้ได้ทันทีว่า ตนเองโดนบริษัทดังกล่าวหลอก เนื่องด้วยความที่ไม่รู้ในเรื่องภาษี และความไว้เนื้อเชื่อใจ ทำให้ถูกหลอกเงินไปเป็นจำนวนมาก
วันนี้จึงเดินทางมาากจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมกับทนายความ และผู้เสียหายรายอื่น ๆ ที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน และหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ ของทางสำนักงานที่รับทำบัญชีดังกล่าว มาร้องขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ติดตามตัวดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด เนื่องจากมีผู้เสียหายตกเป็นหยื่ออีกหลายราย ซึ่งที่เดินทางมาได้ในวันนี้ เพียงแค่ส่วนหนึ่ง มีมากกว่า 5 บริษัท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท หวังจะได้รับความช่วยเหลือ และความเป็นธรรม เพราะมีความเป็นกังวลใจ เนื่องจากมีการข่มขู่มายังทนายความคนก่อน ในลักษณะให้ระวังตัว จะเจอตอ
ทนายจิรพงศ์ กล่าวถึงพฤติการณ์ของสำนักงานบัญชีดังกล่าว ว่า จะมีการแจ้งให้บริษัทของผู้เสียหายทราบว่า กรมสรรพากรมีการเรียกเสียภาษี โดยจะเร่งรัดให้ผู้เสียหายโอนเงินทันที ปรากฎว่า เมื่อมีการโอนเงินแล้ว ไม่ได้นำไปจ่ายให้กับสรรพากรตามที่ระบุไว้ ตรวจพบการเชื่อมโยงกันเป็นขบวนการ ผ่านเส้นทางการเงิน ทั้งการโอนเงินไปยังบัญชีส่วนตัวต่าง ๆ หลายบัญชี ผ่านพนักงาน หลังผู้เสียหายทราบ ได้มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี กระทั่งมีการข่มขู่ จนทำให้ทนายความคนก่อนต้องถอนตัวไป เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย
ด้านใบเตย เจ้าของเพจจัดให้จบ ดอนเมือง กล่าวเชื่อว่า ยังคงมีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ที่ยังไม่ทราบ หรือทราบแล้วอาจจะยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร วันนี้ตนเองได้รับการประสานมาจากผู้เสียหาย รู้สึกเห็นใจอยากช่วยเหลือ จึงขอให้ผู้ประกอบการทั้งหลายพึงระวัง และหมั่นตรวจสอบ ซึ่งผู้ที่คาดว่าอาจจะถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน ให้แสดงตัว เพื่อร่วมกันเข้าแจ้งความเอาผิดแก่ผู้ก่อเหตุ เพื่อยับยั้งไม่ให้ไปกระทำการดังกล่าวกับใครได้อีก โดยสามารถแจ้งข้อมูลผ่านมาได้ที่ เพจจัดให้จบ ดอนเมือง โทร 062-8965164 หรือมารศรีดำรงธรรม ซึ่งจะได้รวบรวมข้อมูลให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม หลังกลุ่มผู้เสียหายพร้อมทนายความ นำหลักฐานเข้าไปพบกับพนักงานสอบสวนภายในศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไม่นาน ทุกคนต่างเดินออกมาด้วยอาการที่หมดแรง เนื่องจากได้รับคำตอบว่า ไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ให้ได้ เพราะมูลค่าความเสียหายต่ำเกินไป ไม่ถึง 50 ล้านบาท พร้อมแนะนำให้กลับไปแจ้งความที่ สภ.ในท้องที่เกิดเหตุ ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกผิดหวังที่เดินทางมาไกล หวังมาพึ่งพาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง แต่กลับต้องกลับบ้านตัวเปล่า ซึ่งทางทนายความได้ปรึกษากันกับผู้เสียหาย ว่า อาจจะต้องให้ผู้เสียหายกลับมาอีกครั้ง เพื่อไปร้องขอความช่วยเหลือจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะไม่มั่นใจในเครื่องไม้เครื่องมือ และความสามารถของ ตร.ในพื้นที่ เนื่องจากคดีนี้มีเส้นทางการการไหลของเงินไปหลากหลายบุคคล หลากหลายบัญชี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: