กรุงเทพฯ : พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เผยความคืบหน้าคดี ตบทรัพย์ กรณี เจ๋ง ดอกจิก เข้ายื่นหลักฐานเพิ่ม ยัน!! ความบริษุทธิ์ มั่นใจหลักฐานมัดแน่น เพียงพอเอาผิดได้ยกแก๊ง ด้านเจ๋ง รับอับอายหลังเกิดเรื่อง จำต้องเข้าวัดปฏิบัติธรรม สงบใจ
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋งดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือ การ์ตูน อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรครวมไทยสร้างชาติ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ได้เข้ายื่นเอกสารวานนี้ (27 ก.พ.67)
โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เบื้องต้นทั้งคู่ได้นำเอกสารมายื่นต่อพนักงานสอบสวน และยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนการซักถามถึงประเด็นต่าง ๆ ทั้งคู่ ตอบเพียงว่า ไม่มีส่วนรู้เห็น ดังนั้นกระบวนการหลังจากนี้ต้องพูดคุยกันในชั้นศาลเท่านั้น ส่วนประเด็นการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พนักงานสอบสวนยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อตรวจสอบอยู่ และพยานหลักฐานอื่น ๆ เป็นสิทธิของผู้ต้องหา ที่จะนำมายื่นหรือไม่ก็ได้ แต่ยืนยันว่า ขณะนี้พยานหลักฐานที่มีเพียงพอต่อการดำเนินคดีทั้งคู่แล้ว
“เรื่องผู้เสียหายรายอื่น ขณะนี้มีการขยายไปถึงวงที่ 3 ซึ่งมีความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท และมีการจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว วงนี้จะขอทำเงียบ ๆ เพราะไม่อยากให้กระทบต่อระบบราชการ ขณะที่ผู้เสียหายเองก็พร้อมที่จะเข้ามาให้การแล้ว โดยจะสอบไว้เป็นพยาน”
เมื่อถามถึงความคืบหน้ากรณีที่ นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น หรือ คปต. ได้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ในข้อหา มาตรา 157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ปฏิเสธการตอบคำถาม โดยให้เหตุผลว่า เป็นคดีที่เกี่ยวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้กำชับการให้ข่าวไปแล้ว ดังนั้นตนเองไม่อยากเป็นนกแก้วที่ต้องอยู่ในกรง ชอบเป็นนกอินทรีมากกว่า เพราะบินสูง และเลือกเหยื่อได้ พร้อมกับโชว์รูปภาพพื้นหลังโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นรูปนกอินทรีกำลังบินบนท้องฟ้าให้สื่อมวลชนดู โดยบอกว่ารูปดังกล่าว เป็นรูปส่งต่อจากโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่ขอบอกว่าใครส่งให้ พร้อมกับบอกว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเว็บพนันมินนี่ แค่ชอบนกอินทรีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม วานนี้สิ่งที่นายยศวริศ หรือ เจ๋ง ดอกจิก ได้ย้ำกับสื่อมวลชน ว่า ตนเองยังเป็นผู้บริสุทธิ์ สังคมไทยมักตัดสินจากสื่อ และข้อกล่าวหา ทั้งที่ศาลยังไม่ตัดสิน จึงอยากขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน และพี่น้องประชาชน เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น ทำให้เกิดความอับอาย ไปถึงวงศ์ตระกูล ญาติมิตร และเพื่อนฝูง จนไม่สามารถพบหน้าใครได้ แม้แต่จะกลับไปบ้านเกิดที่ จ.สุราษฎร์ธานี ก็ยังไม่ได้เลย เพราะ ญาติพี่น้องอับอายขายขี้หน้า เกรงว่าจะผิดตามข้อกล่าวหาที่ถูกแจ้ง จึงไปเข้าวัดปฏิบัติธรรม เพื่อสงบจิตสงบใจ ปิดวาจา ยืนยันว่าไม่ได้หายไปไหน และไม่ได้พุดคุยติดต่อกับใครเลย โดยเฉพาะ นายศรีสุวรรรณ เข้าวัดปฏิบัติธรรมอย่างเดียว พร้อมยืนยันว่า ไม่มีความกังวลเรื่องคดี เพราะเชื่อในความบริสุทธิ์ของตัวเอง และมั่นใจว่าไม่เคยทําผิดตามที่ถูกกล่าวหา ศาลเท่านั้นจะเป็นผู้ตัดสินว่าผิดหรือไม่ผิด
