กรุงเทพฯ – รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำชุดปฏิบัติการพิเศษ บุกทลายร้านค้าบุหรี่ไฟฟ้า 14 แห่ง และโกดัง 1 แห่ง จับกุมผู้ต้องหา 10 ราย รวม 11 คน พร้อมยึดของกลางกว่าหมื่นรายการ มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
วันที่ 6 มีนาคม 2567 นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายวราวุธ ยันต์เจริญ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค บูรณาการความร่วมมือกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังเจ้าหน้าที่สืบนครบาล ลงพื้นที่สืบสวน ก่อนเปิดปฏิบัติการ ‘VAPE OPERATION’ ทลายแหล่งค้าบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ ที่มีเป้าหมายจำหน่ายให้เด็กและเยาวชน หลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร เน้นจุดที่อยู่ใกล้สถานบันการศึกษา
โดยนางพวงเพ็ชร พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตลาด Number 1 ย่านรามคำแหง 2 ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์ และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ตั้งอยู่ในย่านชุมชน มีหลักฐานการจำหน่ายให้เด็กและเยาวชน จึงตรวจยึดของกลางไว้
จากนั้น เดินทางไปยังโกดังเก็บสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ภายในอาคารที่พักแห่งหนึ่ง ในซอยวิภาวดีรังสิต 16 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ที่เป็นแหล่งบรรจุและกระจายสินค้า ส่งทางไปรษณีย์ และทางออนไลน์ ตรวจยึดของกลาง บุหรี่ไฟฟ้าราว 2,000 ชิ้น, น้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้าราว 1,000 ชิ้น พร้อมอุปกรณ์บรรจุ จับกุมผู้ต้องหาหญิงชาวกะเหรี่ยง 2 คน
ดำเนินคดีข้อหา ‘จำหน่ายสินค้าต้องห้าม (บุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่) นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีค่าตอบแทน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร โดยผิดกฎหมาย’
ข่าวน่าสนใจ:
ภาพรวมปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถจับกุมร้านค้าและยึดของกลางได้ 14 ร้านค้า และโกดัง 1 แห่ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 10 ราย 11 คน ตรวจยึดของกลางได้ 5,980 รายการ รวมของกลางกว่า 10,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
นางพวงเพ็ชร ระบุว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และการเข้าถึงในเด็กและเยาวชนได้ง่าย สั่งการและกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการความร่วมมือเพื่อกวาดล้างและปราบปรามอย่างจริงจัง โดยเฉพาะที่มีการลักลอบจำหน่ายในกลุ่มเด็กและเยาวชน
ซึ่งจากการลงพื้นที่ในวันนี้ พบว่า มีหลายร้านตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษา อีกทั้งยังเป็นจุดกระจายสินค้าไปยังกลุ่มเด็กและเยาวชน นอกจากนี้ ยังพบอุปกรณ์สูบ ที่ปรับรูปแบบให้ดึงดูดใจ เป็นตัวการ์ตูนสีสันสวยงาม พร้อมน้ำยาหลากหลายรสชาติ-กลิ่น เลียนแบบนม ขนม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มชูกำลัง ฯลฯ จึงขอความร่วมมือผู้ปกครอง ช่วยกันสอดส่อง ใส่ใจ ดูแลลูกหลาน หากพบเห็นสิ่งแปลกปลอมที่อาจเป็นบุหรี่ไฟฟ้า ให้ช่วยตักเตือน เพราะบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และอาจทำลายพัฒนาการทางสมอง
“ภัยของบุหรี่ไฟฟ้าที่ส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เราพบกลุ่มผู้เสพหน้าใหม่ที่เป็นเยาวชนอายุเพียง 13 ปี และยังสืบทราบมาว่า มีการนำไปขายในโรงเรียน สถานศึกษา โดยเด็กและเยาวชนเป็นคนรับไปจำหน่ายเอง จึงขอความร่วมมือทั้งผู้ปกครองและสถานศึกษา หากพบเห็นการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ขอความร่วมมือให้แจ้งหน่วยงานรัฐ ทั้งทาง สายด่วน สคบ.1166, ทางเว็บไซต์ OCPB.go.th, เฟซบุ๊ก สืบนครบาล IDMB, แอปพลิเคชัน Traffy Fondue และสายด่วนของภาครัฐทุกช่องทาง“ นางพวงเพ็ชร กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: