กรุงเทพฯ : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการร่วม กสทช. และกองกำลังบูรพา ปฏิบัติการตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ – พนันออนไลน์ ลอบลากสายอินเตอร์เน็ตมุดดิน-ข้ามแดน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) นำโดย พ.ต.อ.ปัถย์ภวิศ วงษ์พินิจ ผกก.กลุ่มงานสนับสนุนคดีเทคโนโลยี บก.ปอท. ร่วมกับกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว นำโดย พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว กองกำลังบูรพา นำโดย พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี เสนาธิการ กองกำลังบูรพา, กสทช. นำโดย นายสุธีระ พึ่งธรรม ผู้อำนวยการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม นำหมายค้นจากศาลอาญมีนบุรี และศาลจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจค้น พื้นที่เป้าหมาย จำนวน 2 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ จ.สระแก้ว หลังสืบทราบว่ามีการกระทำความผิด ทางออนไลน์
โดยจุดแรก เป็นอาคารสำนักงานขายคอนโดมิเนียม แห่งหนึ่ง ที่ไม่ได้มีการก่อสร้าง ลักษณะเป็นอาคารร้าง อยู่ในพื้นที่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าสถานที่แห่งนี้มีการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ โดยมีบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เป็นผู้ขอใช้บริการติดตั้งอินเตอร์เน็ต ภายในอาคารดังกล่าว ซึ่งเป็นสายอินเตอร์เน็ต แบบ leased line ความเร็วสูง (1000mbps/200mbps) ซึ่งมากกว่าการใช้อินเตอร์เน็ตตามบ้านเรือนทั่วไป อย่างผิดสังเกต นอกจากนี้ยังพบว่า มีการลักลอบฝังสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตใต้ดิน ลากผ่านที่ดินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งที่อยู่บริเวณด้านหลังอาคารร้างดังกล่าว เป็นระยะทางกว่า 700 เมตร ก่อนจะข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชา และพบอีกว่า มีการขอใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ในลักษณะเดียวกัน มาติดตั้งยังอาคารดังกล่าว รวมทั้งหมด 6 วงจร ตรวจสอบพบหมายเลข IP ที่เปิดให้บริการกว่า 384 หมายเลข มีชื่อผู้ขอใช้บริการอินเตอร์เน็ต จำนวน 4 ราย แต่พบว่าผู้ชำระค่าบริการรายเดือน กลับเป็นบุคคลคนเดียวกัน
ระหว่างการตรวจค้นอยู่นั้น เจ้าหน้าที่พบว่าสายอินเตอร์เน็ต มีร่องรอยถูกตัดจำนวน 3 เส้น จึงทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าค้นอาคารดังกล่าวไม่ถึง 1 ชม. ปรากฏภาพชาย 2 คน เข้ามาทำการตัดสายอินเตอร์เน็ตดังกล่าว จึงได้ติดตามตัวชายทั้ง 2 คนมาสอบถาม ได้ความว่ารับคำสั่งจาก ‘นาย ป.’ ซึ่งเป็นเจ้านาย ให้มาตัดสายดังกล่าว
ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกอีกชุด ได้เข้าตรวจสอบบริษัทให้บริการเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตฯ ในพื้นที่แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ หลังพบว่า เป็นบริษัทที่มีชื่อขอใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตภายในอาคารร้าง ที่ จ.สระแก้ว พบตัว ‘นาย ก.’ เป็นกรรมบริษัทฯ และเป็นผู้ชำระค่าบริการอินเตอร์เน็ตภายในอาคารร้าง จากการตรวจค้นพบเอกสารเกี่ยวกับการเช่าใช้บริการอินเตอร์เน็ตที่อาคารร้างดังกล่าว และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง รวม 9 รายการ จากการสอบถาม ‘นาย ก.’ รับว่า ตนเองเป็นผู้ขอใช้อินเตอร์เน็ต และติดตั้งสายสัญญาณด้วยตนเอง โดยได้รับการว่าจ้างมาจาก ‘นาย ป.’ เป็นรายเดือน เดือนละ 300,000 บาท เป็นเวลาเกือบ 2 ปี
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าว เป็นความผิด ตาม มาตรา 67 (1) พรบ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ฐานประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ปฏิบัติการในครั้งนี้ถือเป็นการป้องกันและตัดวงจรการก่ออาชญากรรมทางออนไลน์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การหลอกลวง หรือฉ้อโกงต่างๆ ลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต หากประชาชนมีเบาะแส หรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ www.thaipoliceonline.go.th หรือ สายด่วน AOC 1441 ข่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.ตฤณ ลีลานุช สว.กลุ่มงานสนับสนุนฯ บก.ปอท. โทร. 081-701-5664
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: