ปทุมธานี : ขนมไทยลุงติ๊ก แต่วัยรุ่นไทยชื่นชอบ ทำเองขายเอง เข็นรถขายไปทั่วย่านรังสิต ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ยันเที่ยงคืน ได้เงินให้เมียเก็บ มรดกตกทอดมาจากแม่ สั่งเสียไว้ก่อนตาย ‘อาชีพที่ไม่มีวันอดตาย’
นายสิริพงศ์ ตาตะยานนท์ หรือ ลุงติ๊ก วัย 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พ่อค้ารถเข็นขายขนมไทยที่ค้าขายมาแล้วกว่า 40 ปี ย่านภนนรังสิต-นครนายก เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ ในชื่อ ‘ลุงติ๊กขนมไทย’
ลุงติ๊ก เล่าที่มาที่ไปของการประกอบอาชีพ ทำขนมไทยขาย ว่า ได้รับมรดกวิชาความรู้ วิธีการทำขนมไทย มาจาก ‘แม่สมใจ ตาติยานนท์’ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วกว่า 4 ปี ตนเองเป็นน้องคนสุดท้อง ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 4 คน ทุกคนมีอาชีพเดียวกัน คือ ทำขนมไทยขาย
ข่าวน่าสนใจ:
สาเหตุที่มายึดอาชีพค้าขายขนมไทย เพราะคุณแม่สั่งเสียเอาไว้ก่อนตาย ว่า การทำขนมไทยนั้นสามารถเลี้ยงชีพได้ ไม่มีวันอดตาย และเพื่อเป็นการอนุรักษ์ขนมไทยให้ลูกหลานได้รับประทานต่อไป ประกอบกับความชื่นชอบและรักในอาชีพนี้ จึงทำมานานกว่า 40 ปีแล้ว
ลุงติ๊ก ยังบอกอีกว่า ขนมไทยของตนเองขายดีมาก เพราะมีกลุ่มลูกค้าประจำ คือ กลุ่มสูงวัย แต่ที่น่าแปลกใจ และทำให้ประทับใจอย่างมาก คือ มีกลุ่มนักเรียนนักศึกษา เด็กวัยรุ่น ต่างชื่นชอบขนมไทยของลุงติ๊กเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเข็นรถไปขายที่ไหน ก็จะมีเหล่าเด็ก ๆ มาช่วยกันอุดหนุน ซื้อไปทานกัน การรันตีได้เลยในรสชาติความอร่อยและความสะอาด
ขนมไทยที่ลุงติ๊ก ทำมาขายในแต่ละวันนั้น มีอยู่ทั้งหมด 6 ชนิด ประกอบด้วย ข้าวต้มมัด ขนมเทียน ขนมเข่ง ขนมตาล ขนมกล้วย และขนมใส่ไส้ ราคาไม่แพง ตกชิ้นละ 5-10 บาท ไม่เกินนั้น ส่วนขนมใส่ไส้ขายเป็นพวง 4 ห่อ 20 บาท ซึ่งลุงติ๊กจะนำขนมไทยที่ทำเสร็จแบบสดใหม่ ใส่รถเข็น เดินสายออกจากบ้าน เร่ขายไปตามท้องถนน ตั้งแต่ช่วง 6 โมงเช้า ยาวจนถึงเที่ยงคืน ขาย 2 รอบต่อวัน เช้าและบ่าย
โดยรอบบ่ายจะกลับไปที่บ้าน เพื่อนำขนมมาเพิ่ม และออกเร่ขายต่อ ไปจนถึงเที่ยงคืน เข็นรถไปตามถนนรังสิต-นครนายก หยุดตามจุดต่าง ๆ อย่าง บริเวณหน้าหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ในช่วงเช้า และบริเวณหน้าโรงพยาบาลประชาธิปัตย์ ก่อนเดินเข็นมาเรื่อย ๆ ผ่านตลาดสี่มุมเมือง และจะมาจอดอีกครั้งเป็นประจำ ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ แถวห้างสรรพสินค้าแม็คโครรังสิตและคอนโดมิเนียม ขายทุกวันไม่มีวันหยุด แล้วแต่สุขภาพร่างกาย หากไม่เอื้ออำนวย สำหรับรายได้ทั้งหมด ไม่เคยเก็บไว้เอง กลับไปถึงบ้านก็จะส่งให้ภรรยา บุคคลอันเป็นที่รัก หมดทุกบาททุกสตางค์ ไม่เคยได้นับว่าแต่ละวันขายได้กี่บาท
ขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาอุดหนุนขนมไทยของลุงติ๊ก ต่างบอกกันเป็นเสียงเดียวว่า ขนมไทยของลุงติ๊ก อร่อย รสชาติดี สดใหม่ทุกวัน ที่สำคัญขายไม่แพง แถมลุงติ๊กเองก็เป็นคนอารมณ์ดี คุยเก่ง เป็นคนธรรมะธัมโม สังเกตได้จากร่มของรถเข็น เต็มไปด้วยพระเครื่องที่ลุงติ๊กสะสมมา แล้วนำมาแขวนห้อยไว้ กลายเป็นที่สนอกสนใจของลูกค้าที่เข้ามาอุดหนุน ต้องแหงนหน้าขึ้นมองดู ยิ่งหากลูกค้าคนไหนชื่นชอบพระเครื่อง อยู่ในสายเดียวกันแล้วละก็ จะอยู่พูดคุย ชมพระนานกว่าปกติ
พุทธคุณ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และทำให้ค้าขายดี ลุงติ๊ก เผยว่า พระเครื่องที่เห็นนั้น สะสมมานานหลายสิบปี มีพระนับไม่ถ้วน สะสมเพราะใจรัก มีพุทธคุณ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และทำให้ทำมาค้าขายดี มีทั้งหลวงปู่ทวด พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ พระปิดตา พระสมเด็จ หรือแม้แต่ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ ที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
แต่พระที่ศรัทธาและนับถือมากที่สุด ลุงติ๊กได้นำมาแขวนไว้ที่คอ พร้อมโชว์ให้ดู คือ ‘หลวงปู่โต๊ะ’ วัดประดู่ฉิมพลี ซึ่งมีเรื่องราวที่มาที่ไป จากนิมิต ที่เข้ามาในฝันว่า หลวงปู่โต๊ะมายืนอยู่เคียงข้าง พร้อมมอบคาถาค้าขายให้ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 ให้บทหนึ่งว่า
“พระพุทธังอาราธนานัง พระธัมมังอาราธนานัง พระสังฆังอาราธนานัง พุทธังประสิทธิเม ธัมมังประสิทธิเม สังฆังประสิทธิเม มหาภิญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม อนัตตาขายหมด อนัตตาขายหมด อนัตตาขายหมด”
หลวงปู่โต๊ะยังได้ย้ำอีกว่า ให้จำไว้ให้ดี และยังบอกว่า ท่านชื่อหลวงปู่โต๊ะนะ ก่อนที่ท่านจะหายไปจากความฝัน หลังจากความฝัน ก็ได้ไปตามหาหลวงปู่โต๊ะ มาบูชา คล้องไว้ที่คอตลอดมา
ลุงติ๊ก ทิ้งท้ายไว้ว่า หากพบเจอลุงติ๊ก เข็นรถขายอยู่ตามท้องถนน ย่านรังสิต-นครนายก อยากทานขนมไทย ก็โบกมือเรียกอุดหนุนกันได้ หรือหากใครต้องการจะสั่งขนมไทยฝีมือลุงติ๊กไปขาย หรือจะนำไปทำบุญเลี้ยงพระ หรือไปร่วมในงานพิธีต่าง ๆ ลุงติ๊กก็ยินดีจะทำส่งให้ สามารถติดต่อมาหาลุงติ๊กได้ที่ โทร.080-6501829 มีราคาส่งให้เป็นพิเศษ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: