นครศรีธรรมราช : สงบแล้วไฟไหม้โรงงานยางพาราเมืองทุ่งสง หลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำควบคุมทั้งคืน กว่า 12 ชม. พบยางถูกเผาวอด 250 ตัน ยังประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ได้ พร้อมเร่งหาสาเหตุโดยเร็ว
วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 กรณีเหตุเพลิงไหม้โรงงานรมยางพารายูนิรับเบอร์ เลขที่ 99/9 ริมถนนเอเชีย 41 หมู่ 4 ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเพลิงได้ลุกไหม้เตาเผาหลายเตาอย่างรุนแรง เปลวไฟและควันดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้าเป็นวงกว้างอย่างน่ากลัว จนต้องระดมรถดับเพลิงจากหลายพื้นที่นับสิบคัน เข้าทำการดับเพลิงตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งช่วงกลางดึก นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง เพื่ออำนวยการดับเพลิง เพื่อต้องการให้เพลิงสงบโดยเร็ว ได้รับการสูญเสียให้น้อยที่สุด
ล่าสุดเช้าวันนี้ (6 พ.ค.) ไฟได้สงบลงแล้ว หลังจากไหม้ติดต่อกันยาวนานเกือบ 12 ชม. ภายหลังเพลิงสงบ พันตำรวจเอกธีระวุฒิ เทพเลื่อน ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทุ่งสง พร้อม เจ้าหน้าทีตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เพลิงไหม้ภายในโรงงานยางพาราดังกล่าวอย่างละเอียด เพื่อสำรวจความเสียหาย
เบื้องต้นพบว่าเพลิงได้ลุกไหม้ห้องอบ รมยาง จำนวน 5 ตู้ ด้วยกัน ซึ่งภายในตู้แต่ละตู้มียางพาราจำนวน 50 ตัน รวมแผ่นยางพาราที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายไปจำนวน 250 ตัน มูลค่าความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้ ยังอยู่ระหว่างการสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะได้ทำการสอบสวนปากคำเจ้าของโรงงานในภายหลัง เพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป
ด้านนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชเปิดเผยว่า โรงงานยางแห่งนี้ได้เก็บสต๊อกยางพาราไว้จำนวน 18 ล็อก ล็อกละ 50 ตัน จากรายงานเบื้องต้นทราบว่า เพลิงไหม้ไป 5 ล็อก เสียหายประมาณ 250 ตัน ตอนนี้สามารถคุมเพลิงได้แล้ว เนื่องจากยางพาราเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงดับยาก ใช้เวลามาถึงเช้ามืดวันนี้ ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน เร่งทำการดับไฟ ด้วยความร่วมมือร่วมใจในการทำงาน สำหรับมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ในตอนนี้ ต้องรอประเมินค่าเสียหายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
สำหรับโรงงานยางพาราดังกล่าว เป็นโรงงานผลิตยางพาราแผ่นรมควันขนาดใหญ่ เพื่อการส่งออกระดับภาคใต้ และระดับประเทศ มีกำลังการผลิตสูงถึง 9,700 ตัน/ปี
: อ่านข่าวก่อนหน้าได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
