‘วราวุธ’ แจงยิบ การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ ย่านเยาวราช เผย ไม่ได้นิ่งนอนใจ

กรุงเทพฯ : ‘วราวุธ’ รมว.พม. แจงละเอียด ขั้นตอนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ ย่านเยาวรราช หลังเกิดเหตุ ส่ง จนท.พม.เข้าช่วยทันที ล่าสุด พบ เข้าข่าย พม.ดูแล 73 ราย เป็นเด็กเยาวชน 6 ราย

วันที่ 9 กรกฎาคม 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้ ชุมชนตรอกโพธิ์ ย่านเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ เมื่อคืนวันที่ 6 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ว่า หลังเกิดเหตุตนเองได้มอบหมายให้นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รีบลงพื้นที่ไปเยี่ยมศูนย์พักพิง และได้ให้เจ้าหน้าที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) สังกัดกระทรวง พม. รีบไปตั้งจุดลงทะเบียนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ศูนย์อำนวยการร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย และรับบริจาคสิ่งของ ที่วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร (วัดเกาะ) ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ และศูนย์บริการสาธารณสุข 13 ไมตรีวานิช สำนักอนามัย) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง เพื่อเร่งบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย

โดยทางกระทรวง พม. มีหน่วยงานระดับกรมเข้าไปพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามกลุ่มเป้าหมายที่กระทรวง พม. ดูแล อาทิ เงินสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน เงินช่วยเหลือจากกองทุนต่าง ๆ เงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่ง เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะยากลำบาก เงินอุดหนุนเงินสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ เงินกองทุนคุ้มครองเด็ก เงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน จากนั้น แต่ละกรมจะพิจารณาความช่วยเหลือตามภารกิจของกรมต่อไป

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ประสบภัยที่มาลงทะเบียนกับสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ มีจำนวน 365 ราย เป็นคนไทย 182 ราย และเป็นชาวต่างชาติ 183 ราย พบว่าผู้ประสบภัยที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ได้มาลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 6-8 กรกฎาคม 2567 (เวลา 18.00 น.) รวมจำนวน 73 ราย ได้แก่ 1) กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ 42 ราย 2) กรมกิจการผู้สูงอายุ 22 ราย 3) กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ 1 ราย 4) กรมกิจการเด็กและเยาวชน 6 ราย และ 5) กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว 2 ราย

สำหรับการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ พม. ได้รายงานเบื้องต้นว่า ครอบครัวที่หนึ่ง เด็กมัธยมศึกษาตอนต้น และกำลังศึกษา กศน. หนึ่งราย การช่วยเหลือ ได้แก่ 1) เงินกองทุนคุ้มครองเด็ก จำนวน 6,000 บาท ประกอบด้วย ค่าตอบแทนการเลี้ยงดูเด็ก ค่าเครื่องอุปโภคบริโภค และค่าใช้จ่ายการศึกษา ครอบครัวที่สอง เด็กประถมและมัธยม รวม 4 ราย การช่วยเหลือ ได้แก่ 1) เงินอุดหนุนเด็กในครอบครัวยากจน จำนวน 3,000 บาท 2) เงินกองทุนคุ้มครองเด็ก จำนวน 22,000 บาท ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายทางการศึกษา ค่าเลี้ยงดู ค่าอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติ ได้จัดเตรียมที่อยู่อาศัยรองรับผู้ที่ประสบเหตุ เป็นห้องว่างในอาคารเช่าจาก 6 โครงการ ประกอบด้วย 1) บ้านพระราม 4 พลัส 2) ทุ่งสองห้อง 3) ทุ่งสองห้อง ระยะ 3 4) ออเงิน ระยะ2 5) พรพระร่วงประสิทธิ์ ระยะ 1 ส่วน 1 และ 6) พรพระร่วงประสิทธิ์ ระยะ 1 ส่วน 2 โดยมีราคาค่าเช่าเฉลี่ย 300-3,300 บาทต่อเดือน

ดังนั้นในส่วนของกระทรวง พม. ในช่วงสามวันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ พม. โดยศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชนนั้น ได้ลงไปตั้งหลักอยู่ในพื้นที่แล้วก็ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทุกหน่วยงานที่อยู่ในพื้นที่ และที่สำคัญถ้าหากว่าพี่น้องประชาชนท่านใดยังต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถโทรเข้ามาได้ที่ สายด่วน พม. โทร.1300 หรือศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ซึ่งเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกๆ กรณี