สระแก้ว : ตำรวจไซเบอร์จับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ สคบ. หลอกตุ๋นเหยื่อข้าราชการหญิงจนเปื่อย โอนเงินไปจนหมดตัว รวมเป็นเงินกว่า 7 แสน
วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 พลตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้สั่งการให้ พลตำรวจตรีสถิตย์ พรมอุทัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 (ผบก.สอท.3) ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนสอบสวนติดตามพฤติกรรมของกลุ่มมิจฉาชีพ ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ได้โทรศัพท์ไปหลอกเหยื่อรายหนึ่ง จนเกิดการหลงเชื่อ ติดตั้งแอปพลิเคชันโอนเงินเข้าไป สูญเงินไปกว่า 7 แสนบาท หลังผู้เสียหายได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ ให้ช่วยติดตามจับกุมตัวกลุ่มผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
คดีนี้สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 มี.ค.67 ได้มีมิจฉาชีพโทรหาข้าราชการหญิงรายหนึ่ง โดยแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. อ้างว่าผู้เสียหายได้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปเปิดซิมการ์ดและบัญชีธนาคาร โดยข้อมูลดังกล่าวถูกนำไปเปิดเฟซบุ๊กแฟนเพจหลอกขายผลิตภัณฑ์ยาลดน้ำหนัก ทำให้มีผู้ร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก แล้วมิจฉาชีพแจ้งว่าผู้เสียหายต้องไปยืนยันตน และปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ กทม. ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและเกิดความกลัว แต่ขณะนั้นผู้เสียหายพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.มหาสารคาม ทำให้ไม่สะดวกเดินทาง มิจฉาชีพจึงแนะนำให้ผู้เสียหายทำการยืนยันตัวตนผ่านช่องทางไลน์แทน
ข่าวน่าสนใจ:
- รับสมัครเลือกตั้ง สจ.สระแก้ว วันแรกคึกคัก พรรคประชาชนส่งทีมลงสมัครหลายพื้นที่ ส่วนอดีต สจ.บางคนไม่ลงเพราะต้องลงเลือกตั้งท้องถิ่น
- มอบของขวัญปีใหม่แก่ผู้พิการในงานวันคนพิการสากลฯ เฉลิมพระเกียรติฯ จ.สระแก้ว
- เปิดสะพานข้ามแยกสระขวัญชั่วคราวช่วงเทศกาลปีใหม่ จ.สระแก้ว ส่วนเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไนเปิดใช้เส้นทางช่วงกลางคืน
- จัดยิ่งใหญ่ "กีฬาบ้านแก้งสัมพันธ์" สร้างสุขภาพ-สร้างความสามัคคี คนร่วมงานกว่าพันคน
ต่อมาคนร้ายได้โอนสายให้สนทนากับ ร.ต.อ.มนูญ ซึ่งแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. หลังจากนั้น ให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนกับบัญชีไลน์ชื่อ ‘กองกำกับการปราบปรามการกระทำความผิดผู้บริโภค’ แล้วได้แชทสนทนากับ พ.ต.ท.ธีรภพ ที่แอบอ้างเป็นตำรวจ บก.ปคบ. ด้วยเช่นกัน โดย พ.ต.ท.ธีรภพแจ้งว่าผู้เสียหายมีส่วนพัวพันกับคดีฟอกเงิน จึงต้องโอนเงินให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. จากนั้นได้ให้ให้ผู้เสียหายวิดีโอคอลคุยกับมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จาก ปปง. ผ่านทางวิดีโอคอล โดยเจ้าหน้าที่ปลอมดังล่าวแจ้งว่าต้องมีการอายัดบัญชีธนาคารของผู้เสียหายจนกว่าจะทำการตรวจสอบทรัพย์สินเสร็จสิ้น
จากนั้น มิจฉาชีพให้ผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิเคชันชื่อ “AMLO” ที่ดาวน์โหลดผ่านทาง Google Chrome เมื่อติดตั้งสำเร็จ ได้ให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลและทำตามขั้นตอนต่างๆ ตามที่แจ้ง สุดท้ายมิจฉาชีพได้ส่งหมายเลขบัญชีธนาคารให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อคนร้ายจึงได้โอนเงินให้แก่คนร้ายจำนวน 3 ครั้ง รวมทั้งสิ้น จำนวน 631,273.83 บาท
ต่อมา มิจฉาชีพได้ขอให้ผู้เสียหายตรวจสอบแอปพลิเคชันบัตรสินเชื่อของธนาคารหนึ่งที่ติดตั้งอยู่ในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย แล้วหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินออกจากแอปดังกล่าวเข้าบัญชีธนาคารผู้เสียหายเอง จำนวน 3 ครั้ง รวม 70,000 บาท แล้วมิจฉาชีพจึงหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินในบัญชีจำนวนดังกล่าวไปให้ ปปง. ตรวจสอบยอดเงินที่ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนไปทั้งสิ้น จำนวน 701,273.83 บาท
เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนครบ จึงออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ ได้หลายราย กระทั่งเมื่อวันที่ 9 ก.ค.67 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.อรุณณพันธ์ วานิช์ชานันท์ ผกก.4 บก.สอท.3 ได้ส่งกำลังลงพื้นที่ พร้อมนำหมายจับของศาลจังหวัดมหาสารคาม เข้าติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย รายแรกคือ น.ส.อังคณา อายุ 31 ปี จับกุมตัวได้ในพื้นที่ หมู่ 15 ต.สระขวัญ อ.เมือง จ.สระแก้ว และนายชาญชัย อายุ 34 ปี จับกุมตัวได้ในพื้นที่ หมู่ 10 ต.สระขวัญ อ.เมือง จ.สระแก้ว ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและร่วมกันเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน,สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน”
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.3 ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการที่ยังหลบหนี มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: