นครศรีธรรมราช : ใครจะไปรู้ว่า ขยะจากท้องทะเล ที่ติดมากับอวน มันกลายเป็นกองเงินกองทอง ให้กับพี่น้องชาวหัวไทร มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว ในงานรับจ้าง ‘สาวอวน’ อีกหนึ่งอาชีพ คู่ชาวประมง ของพี่น้องบ้านเกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ในช่วงฤดูมรสุม
วันที่ 27 สิงหาคม 2567 วันนี้ 77 ข่าวเด็ด จะพาลงไปดูอีกหนึ่งอาชีพรับจ้าง ที่สามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ให้กับคนในพื้นที่บ้านเกาะเพชร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช นอกเหนือจากการทำประมง ออกหาปลากลางทะเลเป็นหลัก อาชีพนี้ถือเป็นงานที่ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ระหว่างเจ้าของเรือประมง และชาวบ้าน ช่วงที่เรือประมงกลับเข้าฝั่ง นั่นก็คือ ‘อาชีพสาวอวน’ หรือปลดขยะที่ติดมาจากทะเลออกจากอวนหาปลา
ชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง กว่า 20 คน ทั้งชายหญิง กำลังขะมักเขม้นในการทำความสะอาดอวน ที่ใช้ในการออกหาปลา ด้วยการนำค้อนมาทุบสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ที่ติดอยู่ภายในร่องตาข่ายของอวน ไม่ว่าจะเป็นเศษขยะ ฟองน้ำทะเล เปลือกหอย และปู ถือเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ที่ชาวประมง (เจ้าของเรือ) จะต้องควักเงินออกจากกระเป๋า เพื่อมาว่าจ้างชาวบ้านให้ช่วยนำออก ก่อนมัดเป็นห่อ ๆ นำกลับคืนเจ้าของเรือ เพื่อนำออกไปหาปลาในท้องทะเลอีกครั้ง
สำหรับรายได้จากการสาวอวน เกิดจากความขยันในการปลดขยะออกของแต่ละคน ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย อวนห่อละ 20 บาท หลังปลดขยะออกแล้ว มัดเก็บเข้าห่อให้เรียบร้อยพร้อมส่งคืน และขยะที่ปลดออกก็ยังเป็นรายได้ โดยการนำไปชั่งน้ำหนัก กิโลกรัมละ 5 บาท ซึ่งขยะที่ติดมากับอวน บางห่อก็มาก บางห่อก็น้อย 30-40 กิโลกรัมก็มี อย่างต่ำ ๆ ก็ 10 กิโลกรัมต่อห่อ รายได้แต่ละวันก็ไม่แน่นอน 300-400 หรือ 700-800 ก็มี ขึ้นอยู่กับปริมาณขยะที่ติดมากับอวน สูงสุด 2,000-3,000 บาท ก็ยังเคยได้ ต่อ 1 สัปดาห์ หรือ 2-4 วัน บางวันก็ได้กว่า 1,000 บาท
‘ก๊ะสาว’ เจ้าของงาน บอกว่า อาชีพรับจ้างสาวอวน ไม่ใช่อาชีพหลัก เพราะจะทำได้ในช่วงฤดูมรสุมเท่านั้น หน้าแล้งจะไม่มี ซึ่งเรือประมงส่วนใหญ่ที่กลับเข้าฝั่ง ก็จะนำอวนมาให้สาว หรือปลดขยะออก เดือนละ 1-2 ครั้ง 230-250 ห่อต่อลำ ขึ้นอยู่กับขนาดของลำเรือ เพื่อรอการออกทะเลอีกครั้ง หลังหมดฤดูมรสุม มันเป็นอาชีพที่ไม่แน่นอน บางครั้งก็ได้มาก บางครั้งก็ได้น้อย ขึ้นอยู่กับปริมาณขยะที่ติดมา แต่มันช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถนำไปเลี้ยงดูครอบครัว นอกเหนือจากการประกอบอาชีพด้านอื่น ๆ อีกทั้ง เด็ก ๆ คนเฒ่าคนแก่ก็ทำได้
ส่วนขยะที่ปลดออกมาทั้งหมดก็จะนำไปกองรวมกันไว้ ‘ก๊ะสาว’ บอกว่า มันคือกองเงินกองทอง เพราะขยะเหล่านี้เป็นปุ๋ยชั้นดี ที่มีแคลเซียม กรดเกลือ เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน หรือสวนมะพร้าว นิยมนำไปใช้เป็นปุ๋ยปรับสภาพดิน โดยการนำไปใส่ไว้ใต้โคนต้น ตนเองก็จะมีรายได้เพิ่มจากขยะเหล่านี้ เมื่อก่อนขายกระสอบละ 10 บาท เดี๋ยวนี้ 30 บาท ซึ่งเป็นที่ต้องการมากของเกษตรกร
นายมงคล หน่ายเทศ หรือ บังตุ้ง สามีของ ‘ก๊ะสาว’ ได้พาเดินไปดูกองเงินกองทองบริเวณด้านหลัง โดยบังตุ้ง บอกว่า นี่แหละปุ๋ยชั้นดีเยี่ยม ที่เกษตรกรชาวสวนปาล์ม หรือสวนมะพร้าว ชอบมาก นำไปใส่ใต้โคน เพื่อปรับสภาพดิน ช่วยเสริมราก ลำต้นแข็งแรง ออกลูกออกผลดก จากต้นที่ไม่เคยออกลูก ก็ออก ได้ผลผลิตดี อีกทั้งไม่เป็นพิษภัยต่อธรรมชาติ เนื่องจากย่อยสลายได้เอง โดยจะตักใส่กระสอบขาย กระสอบละ 30 บาท สำหรับเกษตรกรท่านใดที่สนใจ ต้องการนำปุ๋ยธรรมชาติจากท้องทะเล ไปเพิ่มผลผลิตให้กับตนเอง ก็สามารถติดต่อมาได้ที่เบอร์โทร 084-3052946 (บังตุ้ง)
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: