นครศรีธรรมราช : แรงงานกว่าครึ่งร้อย โรงไม้ยางแปรรูปเก่าแก่เมืองคอนหวั่นตกงาน หลังเกิดกระแสข่าวหนาหู โรงงานเจอวิกฤต จำเป็นต้องเอาคนออกกว่าครึ่ง เสี่ยงไม่ได้รับเงินชดเชย จ่อรวมตัวเรียกร้องสิทธิตามกฎหมายแรงงาน หากโรงงานคิดเบี้ยว
จากปัญหาเศรษฐกิจซบเซา ที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขและฟื้นฟูให้ดีขึ้นได้ ส่งผลให้กิจการต่าง ๆ ของภาคเอกชนต้องปิดกิจการลง จำต้องลอยแพพนักงาน ไม่เว้นแม้แต่ภาคอุตสาหกรรมและโรงงานขนาดใหญ่
ล่าสุด ที่ จ.นครศรีธรรมราช เกิดกระแสข่าวแพร่สะพัด ถึงการเลิกจ้างแรงงานของโรงงานแปรรูปไม้ยางพาราเก่าแก่แห่งหนึ่ง ใน อ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากสายพานการผลิตลดลง โดยทางโรงงานมีแผนการปรับลดจำนวนแรงงานลง ให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งในทุกตำแหน่งร่วมร้อยชีวิต ทำให้แรงงานทั้งหมดต่างพากันหวั่นวิตกว่า ‘จะต้องตกงาน’
กระแสข่าวดังกล่าว มีมาอย่างหนาหูนานนับเดือนของคนภายในโรงงาน หลังเจ้าของเดิมหยุดดำเนินกิจการ ด้วยปัญหาสุขภาพ และการแบกรับภาระต้นทุน เนื่องจากความต้องการของตลาดลดลง ทำให้การผลิตต้องลดลงตามไปด้วยอย่างต่อเนื่อง แม้มีเจ้าของรายใหม่เข้ามารับช่วงต่อ แต่ก็ยังคงประสบปัญหาเช่นเดียวกัน
ที่ผ่านมา ทางโรงงานได้ปล่อยข่าวส่งสัญญาณออกมาเป็นระยะ ๆ ให้แรงงานเตรียมตัว ‘รับมือ’ เพราะจำเป็นต้องตัดจำนวนแรงงานออกครึ่งหนึ่งจากที่มีอยู่ ทำให้แรงงานนับร้อยชีวิตต่างพากันวิตกกังวล ว่านอกจากอาจจะต้องตกงานแล้ว ยังหวั่นใจว่าจะไม่ได้รับค่าชดเชยตามสิทธิ ตามกฎหมายแรงงาน
นางวรรณา (นามสมมุติ) หนึ่งในแรงงานวัยใกล้เกษียณ ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงงานดังกล่าวให้ข้อมูลว่า ทำงานที่โรงงานแห่งนี้มากว่า 30 ปี เรียกได้ว่าเป็นคนเก่าคนแก่ของโรงงานเลยก็ว่าได้ ทุกวันนี้ ได้รับเงินเดือน ๆ ละ 9,000 กว่าบาท แม้เงินเดือนจะน้อย แต่ก็ต้องทนทำ เพราะอายุมากแล้วเกือบ 60 ปี จะให้ไปเริ่มต้นหางานทำใหม่เห็นทีจะลำบาก หลังจากทราบเรื่องก็รู้สึกเป็นกังวลใจมาก กลัวว่าจะตกงานในยามแก่ อนาคตจะแย่
ทราบข่าวว่าทางโรงงานต้องการลดจำนวนพนักงานลง โดยจะนำคนออก 40-50 คน จากที่มีอยู่ราว 100 คน แต่ไม่รู้ว่าผู้บริหารโรงงานจะมีมาตรการแบบไหน รู้เพียงว่าจะให้พนักงานเขียนใบลาออก ซึ่งตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ทางโรงงานใช้วิธีการบีบพนักงานทางอ้อม ด้วยการลดวันทำงานสลับกัน ใน 1 สัปดาห์ จะได้ทำงานเพียงแค่ 2-3 วันเท่านั้น วันที่หยุด แรงงานก็จะได้รับเงินค่าจ้างบ้าง ไม่ได้รับบ้าง กระทั่งบางคนจำใจต้องลาออกเองเพื่อไปหางานอื่นทำ เนื่องจากขาดรายได้ ไม่เพียงพอเลี้ยงดูครอบครัว
“มีเสียงกระซิบมาเป็นการส่วนตัวว่า ฉันไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้นที่จะต้องออกจากงาน แต่มีคำแนะนำให้ลาออกจากโรงงานเดิม แล้วสมัครเข้าไปอยู่ในชื่อบริษัทใหม่ ที่เจ้าของใหม่เข้ามารับช่วงต่อ แต่ก็รู้สึกไม่สบายใจ และไม่ค่อยมั่นใจในบริษัทใหม่ ว่าจะอยู่ได้นานไหม เนื่องจากปัจจุบันก็ประสบปัญหาแบบเดิมมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งหวั่นใจว่า หากลาออกไปแล้ว จะไม่ได้รับสิทธิค่าจ้างชดเชยแรงงานตามกฎหมาย”
นางวรรณา ยืนยันว่า จะยังคงทำงานต่อไป จะไม่ลาออกตามคำแนะนำของทางโรงงานอย่างเด็ดขาด ส่วนแรงงานคนอื่น ๆ ก็ต่างเฝ้ารอด้วยใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ จากทางโรงงาน ว่ารายชื่อ 1 ใน 50 คน ที่จะถูกให้ออกนั้น จะเป็นใครและจะเป็นตัวเองหรือไม่ ซึ่งหากถูกให้ออกจริงตามกระแสข่าว ก็ต้องรอดูท่าทีว่าผู้บริหารจะดำเนินการอย่างไร หากไม่ทำตามขั้นตอนของกฎหมายแรงงาน กลุ่มแรงงานที่ถูกให้ออก ก็จะรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องตามสิทธิ และพร้อมจะเดินทางไปร้องขอความเป็นธรรม ต่อแรงงานจังหวัด เป็นลำดับต่อไป ซึ่งขณะนี้ทุกคนต่างรอลุ้นฟังสัญญาณจากทางโรงงานอยู่ ว่าแจ็กพอตจะไปตกอยู่ที่ใคร
โรงงานแห่งนี้ เป็นโรงงานแปรรูปไม้ยางพาราและเฟอร์นิเจอร์ส่งออกขนาดใหญ่ชื่อดังและเก่าแก่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งมานานกว่า 30 ปี อยู่ใน อ.เมืองนครศรีธรรมราช ที่ผ่านมา ได้รับซื้อไม้ยางพาราจากเกษตรกรในหลายจังหวัดภาคใต้ เพื่อนำเข้ามาแปรรูปและผลิตเฟอร์นิเจอร์เพื่อส่งออก ต่อมา มีโรงงานในลักษณะเดียวกันหลายแห่งจนเกิดการแข่งขันสูง ขณะที่การซื้อไม้ยางพาราเข้ามาก็ลดลง สายพานการผลิตและส่งออกจึงลดจำนวนลงตามไปด้วย รวมถึงปัจจัยด้านอื่น ๆ ที่ทำให้โรงงานแห่งนี้ต้องเจอภาวะวิกฤต และอาจจะต้องปิดตัวลงได้ในอนาคต ซึ่งย่อมส่งผลให้แรงงานต้องตกงานอีกจำนวนมากอย่างแน่นอน
