นครศรีธรรมราช:ผู้ว่าราชการจังหวัดประชุมเครียด สั่งการทุกหน่วยงาน พื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมรับมือพายุ”ปาบึก”
วันที่ 2 มกราคม 2562 นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ส่งหนังสือสั่งการด่วนที่สุดถึงนายอำเภอ เตรียมความพร้อมรับมือกับเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย คลื่นลมแรง และฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 3-5 มกราคม 2562 นี้ พร้อมออกประกาศเตือนพี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะได้รับผลกระทบ ให้ระมัดระวัง พร้อมรับมือกับสถานการณ์ และให้เฝ้าติดตามความคืบหน้าจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยให้ทุกอำเภอสนธิกำลังกับทุกหน่วย ทั้งส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ อบต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่เตรียมพื้นที่รองรับตามแผนในการอพยพประชาชน เน้นความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นสำคัญ
สำหรับพายุโซนร้อนที่จะมีผลกระทบกับพื้นที่เสี่ยงในภาคใต้มีชื่อว่า “ปาบึก” (PABUK) โดยพายุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง และกำลังเคลื่อนตัวมาทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านปลายแปลมญวน ลงอ่าวไทย และส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของภาคใต้ฝั่งตะวันออกและอ่าวไทย ในช่วงระหว่างวันที่ 3-5 มกราคม 2562 นี้
“สำหรับพื้นที่ชายฝั่งตั้งแต่ อ.ขนอม สิชล ท่าศาลา เมือง ปากพนัง และหัวไทร ขอให้เร่งอพยพชาวบ้านมาอยู่ในที่ปลอดภัย เรือประมงงดออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด ล่าสุดได้รับรายงานในทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ลมกรรโชกแรง และมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ในส่วนโซนเขาขอให้ระมัดระวังน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงด้วยเช่นกัน”ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้าน ในแถบชายฝั่ง พื้นที่เสี่ยงต่างๆ อาทิ อ.ขนอม สิชล ท่าศาลา เมือง ปากพนัง และหัวไทร ต่างช่วยกันเร่งนำเรือและเครื่องไม้เครื่องมือทำการประมงขึ้นมาเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย โดยบางรายได้ใช้ภูมิปัญญาของตัวเองจากการสังเกตความผิดปกติของคลื่นลม และน้ำทะเลที่มีสีขุ่นดำ จึงได้หยุดทำการประมงมาแล้ว 3 วัน ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศจากทางกรมอุตุนิยมวิทยา ถึงพายุดังกล่าว
นอกจากนี้ในลำคลองปากน้ำท่าศาลาห่างจากชายฝั่ง เข้าไปหนึ่งกิโลเมตร ชาวประมงพื้นบ้านก็ได้นำเรือไปเก็บและหลบคลื่นลมกันเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับเจ้าของเรือประมงขนาดใหญ่ก็ได้สั่งการให้ลูกเรือนำเรือเข้าฝั่งทั้งหมดเช่นกัน
ทั้งนี้มีรายงานข่าวเข้ามาว่า สำนักงานประมงอำเภอปากพนัง ได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนพื้นที่ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้พบซากวาฬถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยตื้นตาย ที่บริเวณปลายทรายแหลมตะลุมพุก โดยทางสำนักงานประมงอำเภอปากพนังได้ประสานไปยังเจ้าหน้ากรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้เข้าทำการเก็บซากเพื่อพิสูจน์สาเหตุการตาย เบื้องต้นอาจจะเป็นผลมาจากคลื่นลมในทะเลที่เกิดการเปลี่ยนแปลง จนผลักซากวาฬมาเกยตื้นตายดังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: