นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีการประกาศขึ้นค่าแรงของรัฐบาลว่า ก่อนที่จะประกาศขึ้นค่าแรงสินค้าขึ้นมาแล้ว 1 รอบ และหลังประกาศขึ้นค่าแรง สินค้าก็ขึ้นอีกรอบ ถามว่าทำไมไม่ควบคุมราคาสินค้าควบคู่ไปด้วย ทำแบบนี้เท่ากับเหยียบย่ำซ้ำเติมเกษตรกรทุกสาขาอาชีพให้ตายติดดิน ไม่ต้องถามส่วนอื่น ทำไมมาขึ้นค่าแรงท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ไหนรัฐบาลว่าจะขจัดความเหลื่อมล้ำทางสังคม วันนี้ช่องว่างเหมือนอยู่ปากเหวกับฟ้า การประกาศขึ้นค่าแรงไม่ได้ช่วยอะไร ต้องแก้ที่ปากท้องของประชาชน อยากเห็นประชาธิปไตยที่กินได้ก็ต้องแก้ไขปากท้องเท่านั้น และมันก็จะส่งผลขึ้นไปอย่างเห็นได้ชัด การแก้ปัญหาต้องแก้ที่ฐานราก ไม่ใช่แก้ที่ส่วนบน
“ วันนี้ดูที่สวนยางล้มกันเป็นแถว การบริหารงานจากส่วนบนล้มเหลว ส่งผลให้ผลประโยชนไม่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาง เรื่องปุ๋ย เรื่องการส่วนออก ส่งผลให้เกษตรกรผู้ผลิตเองได้รับผลกระทบ การประกาศขึ้นค่าแรงเท่ากับลูกจ้างในสถานประกอบการได้เพิ่มเงินขั้นต่ำขณะที่ยางก็ขายไม่ออก ยังจะมาหักหน้าหักกลัง แม่ค้าหน้าโรงงานก็ต้องขึ้นราคาสินค้า ทุกอย่างก็ขึ้นเป็นเงาตามตัว ถามว่าใช่หรือไม่ และแนวโน้มวันนี้จะมีคนตกงานเพิ่มมากขึ้น รัฐนาวานำพาให้ประเทศล้มเหลว”
มีรายงานว่าช่วงบ่ายวันนี้ ชมรมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางได้เรียกประชุมผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางกว่า 30 ราย ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.ท่าศาลา เพื่อหารือร่วมกันในการปรับทิศทางการว่าจ้างแรงงานทุกประเภทในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีการพูดถึงการขึ้นค่าแรงที่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน ที่อาจประสบภาวะการขาดทุน เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการเซ็นสัญญาว่าจ้างการทำงานโครงการใหญ่ๆไว้ล่วงหน้า พร้อมทั้งมีการพูดถึงการจ่ายค่าธรรมเนียมที่ถูกต้องกับทางราชการ ที่จะต้องลดลง 10% จากเดิมที่จะต้องจ่ายถึง 30% เพื่อนำเงินส่วนต่าง 10% จ่ายเป็นค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้งานแล้วเสร็จตามวันเวลาที่กำหนดเอาไว้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: