ดร.ประวิช รัตนเพียร กรรมการเลือกตั้ง เป็นประธานเปิดโครงการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับบทบาทพลเมืองโดยการส่งเสริมบทบาทสตรีกับการมีส่วนร่วมพัฒนาประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 (ภาคใต้) จำนวน 45 คน เป็นกลุ่มเป้าหมายตัวแทนสตรีจากแกนนำเครือข่ายศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล (ศส.ปชต) และหมู่บ้านไม่ขายเสียง และองค์กรผู้นำสตรีต่างๆตัวแทนจังหวัดละ 3 คน รวม 15 จังหวัด โดยภายหลังเป็นประธานเปิดแล้วเสร็จ ได้เรียก ผอ.กกต.ทั้ง 15 จว.เข้าประชุมเพื่อมอบนโยบายการเตรียมการเลือกตั้งที่จะมาถึง
โดย ดร.ประวิช กล่าวว่า ต้องไม่ลืมว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ตัวเลขผู้มีสิทธิ ออกเสียง และจำนวนผู้มาใช้สิทธิออกเสียง ส่วนใหญ่จะเป็นสตรี เนื่องจากบทบาทสตรีกับการมีส่วนร่วมพัฒนาประชาธิปไตย ดังนั้นการอบรมฯในครั้งนี้เพื่อตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างเครือข่ายแกนนำกลุ่มสตรีให้เป็น “สื่อบุคคล” ที่มีความรู้เกี่ยวกับการสร้างจิตสำนึกความเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ รวมทั้งเป็นเครือข่ายฐานข้อมูลกลุ่มผู้หญิงที่ผ่านกระบวนการเวทีบทบาทสตรีกับการมีส่วนร่วมพัฒนาประชาธิปไตย และนำไปขยายผลเผยแพร่ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ซักถามถึงการขยายเวลาการเลือกตั้งออกไปอีก จะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งของประเทศไทยหรือไม่ว่า โดยดร.ประวิช กล่าวว่าจะขยายไปมากน้อยก็ไม่เกี่ยวกับ กกต. เรามีหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้ง ผมได้สั่งให้ ผอ.กกต.ในแต่ละพื้นที่ให้เตรียมความพร้อมไว้ ประกาศเลือกตั้งเมื่อไหร่ กกต.ก็จัดการเลือกตั้งตามกระบวนการทันที ส่วนจะออกมาในรูปใดนั้น ก็ต้องรอประกาศจาก สนช.อีกครั้งหนึ่ง ต้องการให้ทำอย่างไร เราจะจัดให้ตรงกับความต้องการในกระบวนการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
และสำหรับเรื่องการทุจริตการเลือกตั้งที่หลายคนกังวลว่าอาจจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่นั้น ขอย้ำว่า กกต.ได้ทำงานเตรียมความพร้อมกันมานานควบคู่กับการสร้างเครือข่ายหลายๆเครือข่าย ซึ่งจะเข้ากับองค์ประกอบในข้อกฎหมายใหม่ที่มีอยู่ เครือข่ายในทุกพื้นที่จะมีความเข้าใจว่า เราจะสามารถทำหน้าที่แจ้งเบาะแส ในการป้องปราม มั่นใจว่าเราสามารถทำได้ คงต้องรอจังหวะของกฎหมาย ที่จะออกมา เราก็จะได้สื่อสารออกไปถูกต้อง ขอให้เชื่อมั่นว่า เราทำดีที่สุด
