นครศรีธรรมราช:หนุ่มตีผึ้งรีบนำน้ำหวานคืนเจ้าของ หลังผึ้งไล่กวดพ่อตาหายเข้าป่านานกว่า 5 วัน ยังไร้วี่แววพบเจอ วอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปล่อยตัวพ่อตากลับบ้านอย่างปลอดภัย 
การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของนายเกษมสุข สอนเฒ่า อายุ 46 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี เมื่อคืนวันที่ 13 เม.ย.62 ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ชักชวนนายบุญฤทธิ์ ไหมทอง อายุ 38 ปี บุตรเขย พร้อมเพื่อนบ้านอีก 1 คน เข้าป่าเพื่อไปหาน้ำผึ้งที่บริเวณภายในป่าเขานางนอน ม.7 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพื่อให้ช่วยกันออกติดตามค้นหาตัว จนนำไปสู่การระดมกำลังของเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน อาทิ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร จนท.มูลนิธิในพื้นที่ทำการออกค้นหา ตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.62 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวมระยะเวลาแล้วกว่า 5 วัน กลับยังไม่พบตัวแต่อย่างใด
และหลังจากที่ทางครอบครัวได้ทำพิธีขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องผืนป่าอยู่ โดยเฉพาะ “เจ้าแม่เขานางนอน” ตามตำนานเล่าขานต่อๆกันมา จนชาวบ้านในพื้นที่ต่างก็ไม่กล้าที่จะลบหลู่ และไม่กล้าที่จะทำในสิ่งที่ไม่ดีบนผืนป่าแห่งนี้ เพื่อขอให้ได้พบตัวนายเกษมสุขโดยเร็วที่สุด พร้อมทำทุกวิถีทางตามความเชื่อต่างๆ ทั้งจัดหาอาจารย์ ครูหมอ หรือแม้แต่ร่างทรงมาประกอบพิธีจับยามสามตาดู ควบคู่ไปกับการระดมกำลังค้นหาของเจ้าหน้าที่ ตลอด 5 วันที่ผ่านมา
ล่าสุดนายบุญฤทธิ์ เขยของผู้สูญหาย พร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้กลับขึ้นไปบนเขาอีกครั้ง เมื่อช่วงหัวค่ำของเมื่อคืนที่ผ่านมาพร้อมกับนำน้ำผึ้งที่ได้จากต้นไม้ใหญ่ในป่าวันเกิดเหตุ มาคืนให้กับเจ้าของ โดยมีการเชิญ”ร่างทรงทวดงู”ที่ชาวบ้านให้ความศรัทธามาทำพิธีขอขมาลาโทษ กับ “เจ้าแม่เขานางนอน” และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ พร้อมเอ่ยปากขอคืนชีวิตผู้สูญหาย หากมีการกระทำที่ล่วงเกินหรือผิดพลาดลบหลู่ ขอโปรดจงให้อภัย และคืนชีวิตผู้สูญหายกลับมาอย่างปลอดภัย ก่อนที่ร่างทรงจะทำการเทราดน้ำผึ้งลงบนโคนไม้ใหญ่ ต้นที่ได้จากการปีนเก็บลงมาเป็นอันเสร็จพิธี
นายบุญฤทธิ์กล่าวว่า ต่อไปจะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้ว และจะไม่ขอมาเก็บน้ำผึ้งที่ต้นไม้ใหญ่ โดยเฉพาะในป่าเขาแห่งนี้อีก ไม่คาดคิดว่าเรื่องราวเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น ได้แต่ภาวนาขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับพ่อตาของตนเลย และขอให้การค้นหาตัวประสบผลสำเร็จโดยเร็ว วันนี้ทุกคนในครอบครัวรวมถึงตัวตนเอง ยังเชื่อมั่นว่าผู้สูญหายยังคงปลอดภัยดี แต่ยังมีบางอย่างที่ปกปิดและบังตาพวกเราอยู่ สิ่งที่สามารถทำได้ในตอนนี้คือ บนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ปกปักคุ้มครองผู้สูญหายให้รอดปลอดภัย รอการเข้าค้นหาในวันต่อไป
สำหรับพื้นที่ป่าดังกล่าว ได้รับคำยืนยันจากทางนายอำเภอทุ่งใหญ่ว่า มีพื้นที่รัศมีกว้างกว่า 900 ไร่ มีทั้งพื้นที่ป่าสงวนและพื้นที่สวนยางพาราของชาวบ้านอย่างที่เห็นอยู่ กำลังการค้นหาของ จนท.ในขณะนี้ที่ยังคงเพียงพอไม่จำเป็นต้องขอกำลังจากที่อื่นหรือจากหน่วยเหนือมาสมทบแต่อย่างใด ซึ่งคำตอบนี้ค่อนข้างเกิดความเคลือบแคลงใจอย่างมากกับครอบครัวผู้สูญหาย หรือแม้แต่ผู้ที่ได้รับรู้รับฟัง หรืออาจเป็นเพราะเหตุผลนี้ที่ทางหน่วยงานภาครัฐไม่ต้องการให้สื่อมวลชนหรือแม้แต่ผู้อื่นที่จะเข้ามานั้น ได้เห็นสภาพป่าเขาที่เสื่อมโทรม หลังจากการเข้าบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการปลูกยางพารา และตัดไม้เผาป่าของนายทุนในพื้นที่ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านกันอย่างหนาหู พร้อมวอนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน
อย่างไรก็ตามภารกิจในการค้นหาตัวนายเกษมสุขจะเริ่มขึ้นอีกครั้งในเช้าของวันนี้ ในเวลา 08.30น.โดยประมาณ และจะยังคงดำเนินการค้นหาไปอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะพบตัวในที่สุด
