นครศรีธรรมราช:อ.ทุ่งใหญ่งานเข้า “เขานางนอน”ถูกนายทุนบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า เผาปรนนับพันไร่ ทดแทนด้วยพืชเศรษกิจ ยังขาดเจ้าภาพรับผิดชอบสภาพพื้นที่ป่าสงวนหลายร้อยไร่บน”เขานางนอน” ม.7 ต.กรงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ถูกกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพล รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ รุกล้ำ บุกรุกตัดโค่นเผาปรนจนหมดสภาพความเป็นพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์จากในอดีต ไม้หวงห้ามขนาดใหญ่หลายชนิด อาทิ “ไม้ตะเคียน,ไม้ยางเขา,ไม้แดง,ไม้หลุมพอ,ต้นปริง,ต้นประ ฯลฯ รวมถึงไม้นานาพันธุ์หลายชนิด” ที่ขึ้นปกคลุมอยู่บนลูกเขาแห่งนี้ ถูกตัดโค่นทำลายจนหมดสิ้น เหลือเพียงพื้นที่โล่งกว้างที่เสื่อมสภาพทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด กับตอไม้ขนาดใหญ่ และเศษซากไม้ที่ถูกเผาดำเป็นเถ้าถ่านเต็มพื้นที่ ส่วนไม้ที่สามารถใช้งานได้ ถูกนำไปแปรสภาพส่งขายตามใบสั่งของผู้ที่ต้องการไม้ป่าหายาก
สภาพพื้นที่ป่าดังกล่าวตกเป็นประเด็นที่ได้รับการหยิบยกขึ้นมา ขณะเกิดเหตุการณ์บุคคลคนสูญหายไปในพื้นที่ป่าแห่งนี้ โดยได้สูญหายไปเมื่อวันที่ 13 เม.ย.62 ที่ผ่านมา “เพื่อให้สังคมได้รับรู้ และต้องการให้ทางหน่วยงานราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ออกมาแสดงความรับผิดชอบ พร้อมเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดและผู้ร่วมกระบวนการ รวมถึงนายทุนผู้ที่อยู่เบื้องหลังมาลงโทษทางกฎหมายให้ได้ โดยเฉพาะเจ้าของพื้นที่ คือ องค์การสวนยาง ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ ที่ได้ครอบครองพื้นที่ป่าบริเวณโดยรอบเป็นจำนวนมากหลายหมื่นไร่ มาไขข้อสงสัยให้กับสังคมได้รับทราบถึงข้อเท็จจริง”และที่สำคัญการตั้งคำถามจากภาคประชาชนชาวบ้าน รวมถึงผู้ที่เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ ในการปฏิบัติภารกิจตามหาบุคคลสูญหาย ต่อหน่วยงานภาครัฐ ผู้ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น ทางอำเภอ ป่าไม้ ท้องที่ ท้องถิ่น ว่า”ไปทำอะไรกันอยู่ ปล่อยให้ป่าไม้ขนาดใหญ่ถูกทำลาย และโดยเฉพาะมี จนท.ของรัฐที่มีส่วนรู้เห็นหรือได้เสีย พร้อมปกปิดการกระทำการความผิดครั้งนี้ด้วยหรือไม่”
เนื่องจากสภาพความเสียหายที่ปรากฎให้เห็น จะต้องใช้ระยะเวลาเป็นแรมเดือนแรมปีในการเข้าบุกรุกทำลาย ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ไม่มีผู้ใดพบเห็น โดยเฉพาะ จนท.ของภาครัฐที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นและอำนวยความสะดวกให้กับนายทุนผู้คิดเข้าครอบครองตลอดระยะเวลาการเข้ามาปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายของ จนท.ภาครัฐ รวมถึง จนท.ทหารจากค่ายกะปางเทพกระษัตรีศรีสุนทร ฝ่ายปกครอง นายอำเภอ จนท.ตร. ท้องที่ ท้องถิ่น แม้แต่ทางจังหวัดเอง โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ได้เข้ามาสั่งการควบคุมบัญชาการปฏิบัติภารกิจค้นหาคนหาย จนถึงขณะนี้ทุกหน่วยงานยังไม่มีการเอ่ยหยิบยกหรือพูดคุยถึงประเด็นปัญหาดังกล่าวขึ้นมาแต่อย่างใด ยังคงนิ่งเฉยโดยปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระแสการกดดันจากภาคประชาชนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนตกเป็นข่าวคราวที่แพร่สะพัดออกไปอย่างกว้างขวางจนไม่สามารถยับยั้งได้อย่างไรก็ตามเรื่องราวของการบุกรุกพื้นที่ป่าแห่งนี้จะไม่ได้รับการเปิดเผยเลย และจะยังคงถูกปกปิดต่อไปอีกให้กับกลุ่มนายทุน ที่คอยจ้องแต่จะแสวงหาผลประโยชน์กับพื้นที่ป่าเขาธรรมชาติในทุกๆที่ โดยเฉพาะป่าสงวนที่มีไม้หวงห้ามขนาดใหญ่ด้วยการเข้ารุกคืบ บุกรุกตัดไม้ทำลายป่าต่อไปจนหมดสิ้น ก่อนที่จะทดแทนพื้นที่ด้วยพืชเศรษกิจ (ยางพารา) เหมือนกับสองฝั่งซ้ายขวาที่มีแต่เพียงต้นยางพาราปกคลุมพื้นที่ไว้ให้ดูกลมกลืนกับธรรมชาติป่าเขา หากไม่มีประเด็นกระแสการค้นหาผู้สูญหายเกิดขึ้น และจะยังคงมีผลประโยชน์ส่วนได้เสียต่อกันไปตลอดระหว่างนายทุนกับผู้ร่วมกระบวนการที่มีอิทธิพล หรือผู้ที่มีศักดิ์มีศรีที่คอยหนุนหลังอยู่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: