นครศรีธรรมราช:นักธุรกิจนำเข้า-ส่งออกชาวจีน แนะเกษตรกรไทยหันมองตลาดล่าง ปลูกพืชผักผลไม้ตามความต้องการของประเทศอาเซียน เพิ่มรายได้ให้ครอบครัวMr.Phua Sweet Boon นักธุรกิจชาวจีนรับซื้อ-ส่งออก พืชผลผลิตทางการเกษตร ระหว่างไทย-มาเลเซียและประเทศในอาเซียน ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การมาจังหวัดนครศรีธรรมราชในครั้งนี้ เพื่อมาหาผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรในทุกภูมิภาคของประเทศไทย เพื่อส่งออกไปยังประเทศมาเลเซียและอีกหลายประเทศในอาเซียน ตามความต้องการของตลาด โดยเฉพาะผลผลิตทั้งในและนอกฤดูกาล ซึ่งช่วงนี้ใกล้เข้าช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตของเกษตรกรชาวสวนผลไม้ทางภาคใต้ของไทย อย่าง มังคุด,เงาะ,ลองกอง ทุเรียน เป็นต้น อีกทั้งตลาดมาเลเซียยังมีความต้องการนำเข้า พืชผักผลไม้ของไทยอีกหลายชนิด อาทิ กล้วยน้ำว้า,จำปาดะ,สะตอ,กล้วยไข่,กล้วยหอมเขียว,กล้วยหิน,มันเทียน,เสาวรส,มะม่วงทุกพันธุ์,มะละกอพันธุ์ฮาวายซึ่งมีมากใน จ.กาญจนบุรี ฯลฯผลผลิตทางการเกษตรเหล่านี้เป็นพืชผลของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนทุกภูมิภาคของประเทศไทย ล้วนแล้วแต่เป็นความต้องการของประเทศมาเลเซียและอีกหลายประเทศในอาเซี่ยนทั้งสิ้น ยกตัวอย่างเช่น ประเทศไทยเคยส่งออกกล้วยหอมเขียวให้กับประเทศมาเลเซียมาอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันประเทศมาเลเซียได้เป็นคู่ค้าในการนำเข้ากล้วยหอมเขียวจากประเทศฟิลิปปินส์แทน สาเหตุเพราะประเทศไทยขาดแคลนผลผลิต รวมถึงผลผลิตอื่นๆที่มีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของประเทศที่นำเข้า ซึ่งทำให้พี่น้องเกษตรกรสูญเสียโอกาสในการเพิ่มรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตามหากประเทศไทยมีปริมาณผลผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ก็สามารถที่จะส่งออกไปยังประเทศมาเลเซียได้เลยในทันที ด้วยปัจจัยหลายๆด้านเช่น ระยะทางในการขนส่ง ประเทศไทยมีความได้เปรียบมากกว่าประเทศฟิลิปปินส์และประเทศคู่ค้าอื่นๆ ซึ่งจะมีผลในเรื่องของภาษีนำเข้าและส่งออก รวมถึงคุณภาพของผลผลิตและมาตรฐานการส่งออกที่ประเทศไทยไม่เคยลดระดับลงยกตัวอย่าง”มะละกอพันธุ์ฮาวาย” เดิมทีประเทศมาเลเซียก็มีผลผลิตเป็นของตัวเอง แต่ผลมะละกอพันธุ์ฮาวายของประเทศไทยจะมีผลที่สวยงามกว่า ประกอบกับมาตรฐานการส่งออกของไทย มาเลเซียให้การยอมรับอย่างมาก การดูแลบำรุงรักษาไปจนถึงแพ็คกิ้งได้มาตรฐานกว่า แม้จะต้องเสียภาษีเพิ่มจากการนำเข้า ก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาดผู้บริโภคและประเทศผู้นำเข้าอยู่ดีอยากให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยได้หันมามองและให้ความสำคัญกับกลุ่มคู่ค้าพืชผลทางการเกษตรตลาดล่าง ประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงแต่ละประเทศในอาเซียน อย่าง ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เป็นต้น เพื่อจะได้หันมาเพาะปลูกหรือเสริมเพิ่มเติมในพื้นที่เกษตรกรรมกันมากขึ้น ตามปริมาณและความต้องการของตลาดเหล่านี้ โดยที่พี่น้องเกษตรกรไทยก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมไปอีกทั้งนี้ Mr.Phua ยังกล่าวอีกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลผลไม้ของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนทางภาคใต้ของไทย โดยเฉพาะ “มังคุด” ขอให้เตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาราคาผลผลิต อาจจะไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจและคาดหวังไว้ เนื่องจากปีนี้ผลผลิตในหลายๆจังหวัดมีปริมาณที่ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะ จ.นครศรีธรรมราช และมีแนวโน้มว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดพร้อมๆกันในหลายๆจังหวัดของทางภาคใต้ รวมถึงผลผลิตของประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซียอีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง สถาบันพระบรมราชชนกเตรียมผลิต 9 หมอรุ่นใหม่ นวัตกรรมสุขภาพไทยสู่ระดับโลก
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
- สุราษฎร์ ฯ อ่วม ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน จนท.เร่งช่วยเหลือประกาศภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: