จากกรณีที่มีการแชร์ภาพไลฟ์สดทางเฟซบุ๊คส่วนตัวจากผู้ใช้ชื่อว่า “ศิริรัตน์ พุ่มดวง” ซึ่งเป็นภาพรถแบคโฮ กำลังขุดตักทรายกลางแม่น้ำคลองกลาย อยู่ระหว่าง ม.1 และ ม.2 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช โดยได้มีการบอกกล่าวถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากตลิ่งทั้งสองข้างได้พังลงมา และสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมานานหลายปี ภายหลังการแพร่ภาพสดถูกเปิดเผยออกไปได้มีผู้ที่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ต่อการกระทำและแสดงความคิดเห็นต่างๆมากมาย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมืองเร่งเข้าดำเนินการยับยั้งและเอาผิดต่อผู้ที่กระทำการดังกล่าว
ล่าสุดวันนี้ 7 มีนาคม 2561 ว่าที่ ร.ต.อุทัย ทาบทอง นายอำเภอนบพิตำ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากทราบเรื่อง ตนพร้อมด้วยนายพันธกานต์ รัชณรงค์ ปลัดอำเภอ ได้ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อตรวจสอบการขุดลอกทรายภายในแม่น้ำคลองกลายตามที่ได้รับร้องเรียนมา สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้ทำการเชิญนายวัชรินทร์ ม่วงหิมพานต์ รองนายก อบต.นบพิตำ และนายยงยุทธ พรหมอินทร์ เลขานุการนายกฯ อบต.ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ลงไปร่วมตรวจสอบพร้อมทั้งสอบถามความเป็นไปเป็นมาถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น
ข่าวน่าสนใจ:
- คึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย-ต่างชาติ แห่เที่ยวจับจ่ายหาของกินคาวหวาน-อาหารทะเลในงาน ‘หาดแม่รำพึง หร่อยริมเล’ ครั้งที่ 2 แน่นงาน
- นครพนม : กองทัพบก ร่วมกับ Kubota มอบไออุ่นในพื้นที่ภาคอีสาน มอบเสื้อกันหนาวให้ชาวนครพนม ตามโครงการ "คูโบต้า พลังใจ สู้ภัยหนาว" ปี 2567
- นายกเทศบาลตำบลนาคำ แจงเหตุต้องระงับเพลิงล่าช้า จากกรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของชาวบ้าน
- เขาค้อผวา "ทริปน้ำไม่อาบ" นอภ.สั่งตั้งจุดตรวจ เกรงหลังเสร็จกิจกรรมภูทับเบิก แก๊งแว้นเตลิดเขาค้อ
โดยสรุปได้ว่าทาง อบต.ได้ดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องน้ำประปาไม่ไหลภายในหมู่บ้านโดยสูบน้ำจากคลองกลายออกไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนช่วงฤดูแล้ง จนน้ำบริเวณจุดที่ทำการสูบแห้งขอด ทาง อบต.จึงนำอุปกรณ์รถแบ็คโฮมาทำการขุดลอกสันทรายเพื่อเบี่ยงร่องน้ำให้น้ำไหลมายังจุดที่สูบที่ใกล้กับประปาหมู่บ้าน เพื่อให้สามารถสูบน้ำเข้าไปใช้ในระบบประปาได้ตามที่ปรากฏดังภาพและมีการร้องเรียนดังกล่าว โดยไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นขึ้นมา อย่างไรก็ตามทางคณะตรวจสอบได้รับฟังและรับทราบถึงเหตุผลดังกล่าว โดยจะขอทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะรายงานให้ทางหน่วยงานต้นสังกัดได้รับทราบ พร้อมกับแจ้งให้กับผู้ร้องเรียนทราบต่อไป
“ทั้งนี้หากเหตุผลไม่เป็นไปตามที่หน่วยงานท้องถิ่นแจ้งให้ทราบ ทางอำเภอจะดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้กระทบต่อชาวบ้าน ซึ่งจากเหตุที่เกิดขึ้นนับเป็นโอกาสดีที่จะได้ดำเนินการทำประชาคมหมู่บ้าน เพื่อให้ชาวบ้านได้ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งที่เกิดขึ้น และร่วมกันหาแนวทางการแก้ไข สำหรับตลิ่งที่พังลงมาทั้งสองฝั่งของคลองกลายนั้น เกิดจากอุทกภัยในพื้นที่ เนื่องจากน้ำป่าไหลหลากลงมาเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร สวนผลไม้ สวนยาง ทำให้ริมตลิ่งพังชำรุดเสียหาย ทรายจำนวนมากจึงไหลลงมากองในคลองกลาย ก่อให้เกิดการตื้นเขินของลำคลอง”
พ.อ.ชาญวิทย์ ปิ่นมณี กอ.รมน.จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เรื่องทรายในคลองกลาย และตลิ่งพังริมคลองกลายนั้น ได้มีชาวบ้านส่งหนังสือร้องเรียนมาที่ศูนย์ดำรงธรรมหลายเรื่อง ต้องเข้าใจว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม จะต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง ที่สำคัญทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ลงนามสั่งให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และให้เร่งแก้ไขปัญหาขึ้นอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบด้วยว่าผู้ประกอบการที่ทำการขุดทรายดังกล่าว ได้ทำการขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วหรือไม่ หากไม่มีการขออนุญาตก็จะต้องหยุดดำเนินการในทันที และจะต้องรับโทษตามบทกฎหมาย สำหรับผู้ประกอบการที่ได้มีการขออนุญาต แต่การดำเนินการส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ และทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนก็ต้องหยุดดำเนินการในทันที เพราะประชาชนต้องมาก่อน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: