นครศรีธรรมราช:ไหม้วอด โกดังวัสดุก่อสร้างใหญ่เมืองทุ่งสง รถดับเพลิงกว่า 30 คัน เข้าระงับ กว่า 4 ชม.เพลิงสงบ สร้างความเสียหายกว่าร้อยล้านบาทเมื่อเวลา 02.10น.วันที่ 30 ส.ค.2562 ร.ต.อ.อธิป พูลสวัสดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าขายวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ บริษัท”เจี๊ยเซ้งโฮมแมคโคร” ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเซีย 41 ขาขึ้น เลขที่ 420 หมู่ 1 ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย นายจิรโรจน์ สำแดง นายอำเภอทุ่งสง,พ.ต.อ.ชัยภัทร ศรีเรือง ผกก.,นายประพัฒน์ รักษ์ศรีทองนายกเทศบาลตำบลชะมาย และจนท.หน่วยกู้ภัยมูลนิธิต่างๆใน อ.ทุ่งสง ระดมกำลัง พร้อมรถดับเพลิงจากพื้นที่ต่างๆใกล้เคียงรวมกว่า 30 คัน เข้ามาทำการดับเพลิงในที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงตรงจุดบริเวณที่เป็นออฟฟิศสำนักงานบริษัทและไหม้ลุกลามเข้าไปภายในโกดังเก็บสินค้าวัสดุก่อสร้างซึ่งมีทั้งสี,ทินเนอร์และสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆจำนวนมากที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ซึ่งกินเนื้อที่ไปประมาณ 5 ไร่เศษ โดยจนท.ได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มกำลังความสามารถและเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากเพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลานานกว่า 4 ชม.เพลิงจึงสงบลง แต่ยังคงมีควันไฟคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา จนท.จึงได้ฉีดน้ำเลี้ยงสกัดไว้ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เพลิงไหม้ลุกขึ้นมาอีกนายจิรโรจน์ สำแดง นายอำเภอทุ่งสง และพ.ต.อ.ชัยภัทร ศรีเรือง ผกก.สภ.ทุ่งสง ได้ร่วมกันสอบสวนปากคำนายประสิทธิ์ เจริญพงศ์ อายุ 50 ปี ซึ่งเป็น จนท.รปภ.ของร้านโดยเข้ารักษาเวรยามอยู่ในช่วงที่เกิดเหตุ โดยให้การว่าขณะที่ตนเข้าเวรยามอยู่ที่ด้านหน้าบริษัท จู่ๆก็เห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากโกดังสินค้าด้านหลังก่อนที่จะได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นตามมาหลายครั้ง คาดว่าน่าจะเกิดจากกระป๋องสีทินเนอร์ในโกดัง แต่ไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ เนื่องจากไม่มีกุญแจเข้าไปภายใน จึงแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบและรถดับเพลิงได้มาถึงในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ต้นเพลิงน่าจะมาจากบริเวณออฟฟิศสำนักงานของบริษัทแล้วได้ไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็วกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากภายในมีวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างที่เป็นเชื้อเพลิงและติดไฟง่าย กินเนื้อที่ไปกว่า 5 ไร่เศษ จากเนื้อที่ทั้งหมด 30 ไร่ โชคดีที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สำหรับมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นน่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่เพลิงสงบลง จะให้ จนท.พิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดมาจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้ว แต่โชคดีที่สามารถดับได้ทัน แต่มาครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลากลางดึกที่ไม่มีใครอยู่ ทำให้เกิดไฟไหม้ลุกลามสร้างความเสียหายมากมายดังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
- แชร์สนั่น! ซอไม้ไผ่ สุดยอดนวัตกรรมดนตรีวัยรุ่นยุคใหม่ เท่อย่างไทยสู่สากล
- สจ.เปี๊ยกไม่ปลื้ม นายกไก่เปลี่ยนใจยอมสยบฉายแสง สุดท้ายกลายเป็นมาให้กำลังใจ
- ตรัง สถาบันพระบรมราชชนกเตรียมผลิต 9 หมอรุ่นใหม่ นวัตกรรมสุขภาพไทยสู่ระดับโลก
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: