สมุทรสาคร – เหยื่ออุบัติเหตุรถตู้รับส่งนักเรียน ร.ร.สิรินธรราชวิทยาลัย เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน คนขับกระบะคันก่อเหตุ พบเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี แถมเมาแล้วขับ
จากกรณีอุบัติเหตุรถตู้รับส่งนักเรียน ร.ร.สิรินธรราชวิทยาลัย จ.นครปฐม ถูกรถยนต์กระบะพุ่งชนท้าย ทำให้รถตู้เสียหลักพุ่งชนเสาไฟเกาะกลางจนล้มลง และชนเข้ากับรถยนต์เอสยูวีที่วิ่งสวนทางมา บนถนนสายบ้านแพ้ว – พระประโทน ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร มีนักเรียนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน คือ นายพาทิศ วีรกุลวัฒนา อายุ 16 ปี และได้รับบาดเจ็บอีก 8 คน เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.30 น. ของวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมานั่น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีนักเรียนเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน คือ น.ส.นวลพรรณ อินต๊ะปัญญา อายุ 18 ปี ที่รักษาตัวอยู่ รพ.มหาชัย สร้างความเสียใจให้กับพ่อแม่ญาติพี่น้องเป็นอย่างมาก ส่วนผู้บาดเจ็บที่เหลืออีก 7 คน ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว 4 คน ได้แก่ น.ส.ปัทมาวดี อยู่ประจำ อายุ 16 ปี, น.ส.กณภัทร สุวรรณวงษ์ อายุ 18 ปี, น.ส.กมณนิษฐ์ ฐิติพัชร์สาคร อายุ 18 ปี และ น.ส.ศุภมาศ ประทุมทา อายุ 15 ปี และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาชัยอีก 3 คน ได้แก่ ด.ญ.นภศร ปุ่นครื้น อายุ 14 ปี, ด.ช.อภิมุข วีรกุลวัฒนา อายุ 13 ปี และ นายแสวง ทองสร้อย อายุ 49 ปี คนขับรถตู้รับส่งนักเรียน
ขณะที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านแพ้ว หลังจากสอบปากคำนายเบส (นามสมมติ) คนขับรถยนต์กระบะ พบว่ายังคงเป็นเยาวชนอายุ 17 ปีเศษ ดังนั้นจึงต้องมีการขอให้ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรสาคร อนุมัติไต่สวนออกหมายขัง โดยทางด้านของนายเบส ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวจริง
ซึ่งก่อนเกิดอุบัติเหตุได้ขับรถยนต์กระบะเอารถจักรยานยนต์ของเพื่อนไปซ่อม แล้วก็มีการดื่มสุรากับเพื่อน ๆ ก่อนที่จะขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็เกิดชนกับรถตู้รับส่งนักเรียน หลังจากนั้นได้ขับรถหลบหนีไปจอดในลานจอดรถของร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างแห่งหนึ่ง ทำทีเป็นเหมือนลูกค้าจะมาซื้อของที่ร้าน แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาสกัดจับกุมไว้ได้ในที่สุด นอกจากนี้จากการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายของนายเบสยังพบว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 107 มิลลิกรัม
เบื้องต้นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนตั้งข้อกล่าวหาว่า ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายอาการสาหัส ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ, ขับรถไม่หยุดช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุแก่เจ้าพนักงานใกล้เคียงทราบ, ขับรถขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้มีผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายถึงแก่สาหัสและรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และขับรถโดยไม่ได้รับอนุญาต
