สมุทรสาคร – ผู้ว่าฯ วีระศักดิ์ ยืนยันไม่มีแรงงานต่างด้าวทุบกำแพงหลังตลาดกุ้งฯ หลบหนี ตามที่โพสต์ผ่านโซเชียล ด้านยอดผู้ป่วยสะสม 1,092 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. 2563 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และ นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร ได้ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดสมุทรสาคร ณ ห้องประชุมศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จังหวัดสมุทรสาคร โดยนายวีระศักดิ์ ได้ชี้แจงกรณีที่มีข้อมูลปรากฎทางโซเชียลมีเดีย ว่ามีการทุบกำแพงด้านหลังตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร และหอพักศรีเมืองเพื่อหลบหนี ซึ่งทางจังหวัดสมุทรสาครได้กำหนดพื้นที่ควบคุมโรคเด็ดขาดนั้น ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าไม่เป็นความจริง โดยจุดดังกล่าวเป็นกำแพงที่ชาวบ้านบริเวณนั้นใช้สัญจรมาประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งภายหลังที่มีประกาศกักตัวผู้ติดเชื้อในตลาดกลางกุ้งฯ นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารก็ได้นำรั้วลวดหนามไปวางปิดกั้นไว้ และ มีเจ้าหน้าที่เวรยามประจำจุด อีกทั้งยังมีการเพิ่มเติมด้วยการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีแรงงานต่างด้าวลักลอบเคลื่อนย้ายหลบหนีออกจากพื้นที่ควบคุมในช่องทางดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ว่าก่อนที่จะถึงวันที่ดำเนินการประกาศเป็นเขตควบคุม ก็อาจจะมีการหลบออกไปซื้อข้าวซื้อของโดยใช้ช่องทางนี้บ้าง
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนอยากจะให้พี่น้องประชาชนทราบว่า ชาวเมียนมาที่อยู่ในพื้นที่ตลาดกลางกุ้งฯ นั้น ไม่ใช่นักโทษ ไม่ได้เป็นผู้ต้องหา ไม่ได้กระทำความผิด ตอนนี้สิ่งสำคัญคือเราต้องมาช่วยกันเพื่อดูแลให้พวกเขาอยู่ในนั้นมีความปลอดภัยของตัวเขาเอง ซึ่งก็จะส่งผลมาถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนคนสมุทรสาครด้วย สิ่งที่ตนเป็นห่วงตอนนี้ คือข่าวสารที่ออกไปคนไทยรู้ คนเมียนมาก็รู้ ดังนั้นจึงเป็นห่วงว่าพอพวกเราไปซ้ำเติม ทำเสมือนว่าพวกเขาเป็นนักโทษ ไปเรียกว่าเขาทุบกำแพงหลบหนี ก็อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจจนนำมาซึ่งการกระทำบางอย่างที่ยากต่อการควบคุมได้ ดังนั้นจึงต้องการให้คนนอกกำแพง นึกถึงจิตใจคนหลังกำแพง ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพื่อลดความตรึงเครียดของคนที่อยู่หลังกำแพง แล้วพวกเขาจะได้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแล และการรักษาทางการแพทย์ จนนำมาซึ่งความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องชาวจังหวัดสมุทรสาครทุกคน ส่วนยอดจำนวนที่ชัดเจนของผู้ที่ถูกกักตัวในพื้นที่นั้น เป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เพราะตอนเกิดเหตุมีเรื่องเร่งด่วน คือ การคัดกรองผู้ติดเชื้อ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำมากกว่าการสำรวจจำนวนคน
ข่าวน่าสนใจ:
สำหรับคนที่ทำให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจนั้น แม้ภายหลังจะมีการลบทิ้ง แต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นไปแล้ว ก็อยากจะบอกตอนนี้ว่า เบื้องต้นเราคงใช้ไม้นวมไปก่อนแต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็คงต้องใช้ไม้แข็งบ้าง เพราะว่ากฎหมายมีกำหนดอยู่แล้วเรื่องการละเมิดสิ่งพิมพ์ทางคอมพิวเตอร์ แต่ตอนนี้คิดว่ายังไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เพราะว่าเรื่องรุนแรงมากที่สุดขณะนี้ไม่ใช่เรื่องของการโพสต์ข้อความที่เราสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงได้ แต่เป็นเรื่องของการแก้ปัญหาในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ให้อยู่ในวงจำกัด, การวางมาตรการในการจัดระเบียบพื้นที่กักตัวผู้ติดเชื้อ, การจัดสถานที่สำหรับรองรับผู้ติดเชื้อในอนาคต รวมถึงเรื่องของอาหาร น้ำดื่ม และเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ เป็นสำคัญ
ส่วน พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวเพิ่มว่า ตามที่ได้สอบถามกันมามากก็คือเรื่องของกำแพงว่า มีผู้ที่ถูกกักกันที่อยู่ในที่พักจังหวัดประกาศไว้ ได้หลบหนีออกไปข้างนอกกำแพงนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงมาทำการตรวจสอบตั้งแต่เมื่อเช้า ซึ่งก็จากการดูร่องรอยต่าง ๆ แล้ว ปรากฏว่าเป็นรอยรั่วของกำแพงซึ่งเป็นกำแพงเก่าแล้วก็ผุพังลงมาเอง โดยทางตำรวจได้ดำเนินการประสานงานกับทางหน่วยงานทหารตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ด้วยการเอารั้วลวดหนามมาปิดไว้ แต่ว่าอาจจะยังไม่แน่นหนามากพอ ซึ่งก็จะได้เข้าไปตรวจสอบและดำเนินการในการ เพิ่มเติมให้แข็งแรงขึ้น พร้อมกันนี้จากที่ได้สอบถามชาวบ้านก็บอกว่า ช่องทางนี้เป็นช่องทางที่เขาใช้ไปมาสัญจรไปตลาดซื้อของกลับมา เมื่อถูกปิดก็เกรงว่าตัวเองจะไม่ได้ออกไปไหน ซึ่งทางตำรวจก็ได้อธิบายให้ผู้ที่ถูกกักตัวเข้าใจแล้วและปฏิบัติตาม แต่ภายหลังหากทราบว่ามีการหลบหนีออกไปจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะติดตามตัวเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ยอดล่าสุด เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 22 ธ.ค. 2563 ตรวจหาเชื้อไปแล้วรวม 8,379 ราย ทราบผลแล้ว 4,769 ราย คิดเป็น 56.91 เปอร์เซ็นต์ พบผู้ติดเชื้อรวมทั้งสิ้น 1,092 ราย คิดเป็น 22.89 เปอร์เซ็นต์ รอผลตรวจอีก 3,610 คน คิดเป็น 43.08 เปอร์เซ็นต์ ในจำนวนผู้ติดเชื้อแบ่งเป็นคนไทย 55 คน คิดเป็น 5.04 เปอร์เซ็นต์ และแรงงานต่างด้าว 1,037 คน คิดเป็น 94.96 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในช่วงเช้า รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน จำนวน 2 คัน ได้มาตั้งจุดให้บริการที่เคหะเอื้ออาทรท่าจีน ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เพื่อตรวจหาเชื้อในกลุ่มผู้ใช้แรงงานและครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ในบ้านเอื้ออาทรท่าจีน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 2,500 ราย ทั้งนี้ มีแรงงานข้ามชาติจำนวนมากให้ความร่วมมือมาเข้าแถวรอตรวจ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: