สมุทรสาคร – ผู้ว่าฯ เผย FAI เป็นส่วนสำคัญ “พลิกฟื้นสมุทรสาคร” ส่วนการฉีดวัคซีนเป็นไปค่อนข้างดี เปิดให้ Walk-in 11 จุดทั้ง 3 อำเภอ ส่วนแรงงานข้ามชาติ เริ่มวันที่ 11 ก.ย. 2564 หากมีวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาเพิ่ม เล็งฉีดให้เด็กตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปก่อนเพื่อเปิดเรียนในระดับอุดมศึกษา
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี กล่าวในรายการ “ไม่แพ้แน่นอน เราจะผ่านไปด้วยกัน” ประจำสัปดาห์ทางเฟซบุ๊กเพจ COVID – 19 สมุทรสาคร บางช่วงบางตอนว่า จากอันดับผู้ป่วยรายวันสูงสุด ขณะนี้จังหวัดสมุทรสาครขยับลงมาจากอันดับ 2-3 ของประเทศ ที่น่าภาคภูมิใจคือการ “พลิกฟื้นสมุทรสาคร” ที่พยายามคงสถิติตัวเลขผู้ป่วยไม่ให้เกิน 1 พันรายต่อวันตั้งแต่เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา วันนี้ตัวเลขยังไม่เกินอยู่ แต่ที่น่าสังเกตคือเรามีการค้นหาผู้ป่วยจากโรงงานที่เข้าร่วมโครงการ Factory Sandbox อยู่ ทำให้ตัวเลขเพิ่มมากขึ้น จากเดิมมีการพบผู้ป่วยเฉพาะในโรงพยาบาลอย่างเดียว
และการเกิดขึ้นของโรงพยาบาลสนามในโรงงานหรือสถานประกอบการ หรือ FAI (Factory Accommodation Isolation) ตนว่าเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้การพลิกฟื้นสมุทรสาครเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ Factory Sandbox ถือว่าเป็นการเกื้อกูลการทำ FAI ของโรงงานต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันมีสถานประกอบกิจการเข้าร่วมกับกระทรวงแรงงานในการทำ FAI เกือบ 2 พันแห่ง มีเตียงรับผู้ป่วยเกือบ 5 หมื่นเตียง ตอนนี้ใช้งานไปแล้วเกือบ 6 พันเตียง แต่หายป่วยแล้ว มีที่ใช้งานอยู่ในขณะนี้ประมาณ 2 พันเตียงเศษ พูดง่าย ๆ ถ้าเกิดไม่มีการระบาดที่รุนแรงมากกว่านี้ เราจะผ่านตรงนี้ไปได้ แต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะเชื้อโควิด-19 มีโอกาสที่จะกลายพันธุ์ ในส่วนของโรงงานที่เข้าร่วมกับกระทรวงแรงงาน ในโครงการ Factory Sandbox จำนวน 22 แห่ง แรงงานกว่า 6 หมื่นคน ซึ่งทั้งหมดถ้าตรวจไม่พบเชื้อก็จะได้รับการวัคซีน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ได้กระทรวงแรงงานมาช่วยทำให้ปริมาณของการฉีดวัคซีนของ จ.สมุทรสาคร เป็นไปอย่างคืบหน้ามากยิ่งขึ้น
ข่าวน่าสนใจ:
นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดเรื่องของการฉีดวัคซีนให้ได้ 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด เพื่อจะให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเชื้อโควิด-19 มีการกลายพันธุ์ หากฉีดวัคซีนตามเป้าหมายเดิมอาจจะไม่เกิดภูมิคุ้มกันหมู่อย่างที่เราต้องการ อาจจะต้องเพิ่มปริมาณการฉีดวัคซีนที่มากกว่านั้น พูดง่าย ๆ คือฉีดวัคซีนครบ 100 เปอร์เซ็นต์ได้ก็จะดีที่สุด แต่ตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะอย่างน้อยเด็กๆ ยังฉีดไม่ได้เพราะไม่มีวัคซีนสำหรับเด็ก และตอนนี้ก็มียี่ห้อเดียวที่สามารถฉีดในเด็กได้คือวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มี ที่มีอยู่ตอนนี้ก็สำหรับเด็กในกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และหญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไปเท่านั้น ดังนั้นถ้าใครไปโฆษณาชวนเชื่อว่าสามารถวิ่งเต้นให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ได้ กรุณาแจ้งมายังตนเองด้วย เพราะที่สมุทรสาครยืนยันว่าไม่มีผู้ที่เป็น VVIP โดยเด็ดขาด
นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 จังหวัดสมุทรสาครฉีดไปได้ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านประมาณ 5 แสนคน แรงงานข้ามชาติที่เข้ามาทำงานถูกต้องตามกฎหมายอีกประมาณ 3 แสนคน รวมถึงประชากรแฝงที่เป็นแรงงานทั้งคนไทยและต่างชาติอีกประมาณ 2 แสนคน ทั้งหมดประมาณ 1 ล้านคน ในจำนวนดังกล่าวต้องฉีดวัคซีน 70 เปอร์เซ็นต์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เป็นจำนวน 7 แสนคน เราฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้วประมาณ 4 แสนคน และเข็มที่ 2 ประมาณ 2 แสนคน ดังนั้นตัวเลขการบริหารจัดการตอนนี้เป็นไปค่อนข้างดี แต่ว่าดีอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องให้ครอบคลุมด้วย โดยเฉพาะแรงงานชาวเมียนมา ตอนนี้จุดฉีดวัคซีน Walk-in แบบไม่ต้องจอง เปิดให้บริการทั้งหมด 11 จุด แบ่งเป็นอำเภอเมืองฯ 3 จุด ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย, ศูนย์การค้าแลนด์มาร์ค มหาชัย และโรงเรียนเทศบาลบ้านมหาชัย (อนุกูลราษฎร์), อำเภอกระทุ่มแบน ได้แก่ โรงพยาบาลกระทุ่มแบน และเทศบาลตำบลคลองมะเดื่อ, อำเภอบ้านแพ้ว ได้แก่ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) สาขาบ้านแพ้ว สาขาเกษตรพัฒนา และสาขาหลักห้า เปิดให้บริการทุกวัน โดยจะฉีดวัคซีนแบบผสมสูตร เข็มแรกเป็นซิโนแวค และเข็มที่สองเป็นแอสตร้าเซนเนก้า
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า มาตรการในการดำเนินการฉีดวัคซีนแบบ Walk-in ตนยังยืนยันว่าให้บริการกับทุกคนที่อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร ไม่ว่าจะเป็นคนสมุทรสาครโดยกำเนิด มีทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดฯ คนไทยที่มาทำงาน เรียนหนังสือ หรือมาใช้ชีวิตในจังหวัดฯ แต่ไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านมาด้วย ก็สามารถเข้าไปฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนแรงงานต่างชาติ ก็ต้องได้รับการฉีดวัคซีนด้วย แต่อาจจะต้องเตรียมเรื่องของล่ามแปลภาษา ซึ่งตามกำหนดการจะให้ Walk-in ได้ตั้งแต่ 11 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป และในเดือนหน้าจะมีวัคซีนไฟเซอร์เข้ามา ก็ได้หารือร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ จะเน้นฉีดให้กับเด็กตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไปก่อน เพื่อให้นักเรียนในระดับชั้นอุดมศึกษาในจังหวัดฯ ได้เปิดการเรียนการสอน ยกเว้นว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะกำหนดเป็นอย่างอื่น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: