สมุทรสาคร – สถานการณ์โควิด-19 พบผู้ติดเชื้อพุ่ง 366 ราย ผู้ว่าฯ สั่งเตรียมรับมือแยกผู้ป่วยรักษาในสถานที่เหมาะสม ทั้ง HI-CI-FAI ไม่ให้แออัดใน รพ.หลัก
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จ.สมุทรสาคร พบจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 8 ก.พ. 2565 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 366 ราย ทั้งหมดพบจากตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาล จำแนกเป็นคนในจังหวัด 233 ราย (คนไทย 201 ราย, ต่างด้าว 32 ราย) และคนนอกจังหวัด 133 ราย (คนไทย 132 ราย, ต่างด้าว 1 ราย) ด้านผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 117,567 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 115,099 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,290 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตรายวัน สะสมอยู่ที่ 1,178 ราย
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันเดียวกัน นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ณ ห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อหารือแนวทางการบริหารจัดการผู้ติดเชื้อทั้งที่อยู่ในครอบครัว ชุมชน และสถานประกอบการ เนื่องจากขณะนี้ จ.สมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน ส่วนใหญ่พบในชุมชนมากกว่าในสถานประกอบการ ขณะที่ในโรงเรียนแทบไม่พบการแพร่ระบาด เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีกระยะหนึ่ง ทางผู้ว่าราชการจังหวัดฯ จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในแต่ละฝ่าย ไปดำเนินการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ดังกล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
โดยให้ทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และโรงพยาบาลทุกแห่ง วางแนวทางร่วมกันในการจำแนกอาการของผู้ติดเชื้อ เพื่อแยกเข้าสู่กระบวนการรักษาหรือการกักตัวในสถานที่ ๆ เหมาะสม ทั้งการให้รักษาตัวที่บ้าน หรือ HI, โรงพยาบาลสนามในโรงงานหรือสถานประกอบการ หรือ FAI, ศูนย์พักคอยคนสาคร หรือ CI, โรงพยาบาลสนาม และโรงพยาบาลหลัก ส่วนแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร เร่งประชาสัมพันธ์ให้สถานประกอบการทุกแห่งต้องมีความพร้อมในการจัดตั้ง FAI ตามแนวทางอย่างที่เคยทำมา หากพบว่ามีการระบาดของเชื้อในกลุ่มแรงงานเป็นจำนวนมาก ก็สามารถที่จะจัดตั้ง FAI รองรับกลุ่มแรงงานในสถานประกอบการได้ทันที
ขณะที่กรมการปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องเตรียมพร้อมในการจัดตั้งศูนย์พักคอยคนสาคร หรือ CI ให้สามารถรองรับผู้ติดเชื้อที่ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลของรัฐได้ เพื่อลดอัตราผู้ป่วยที่ไม่มีอาการรุนแรงที่มาพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เพราะปัจจุบันโรงพยาบาลของรัฐทั้ง 3 แห่งนั้นเริ่มมีอัตราผู้ติดเชื้อสูงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทั้ง ๆ ที่บางรายก็มีอาการไม่รุนแรงมากนัก จึงต้องมีการนำผู้ติดเชื้อในกลุ่มที่อาการไม่รุนแรงออกมาอยู่ที่ศูนย์ CI, FAI หรือ HI แทน ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็จะต้องลงพื้นที่ดูบ้านของกลุ่มเสี่ยงเพื่อรองรับการทำ HI ในกรณีกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการใด ๆ เลย หรือได้รับการส่งต่อจากโรงพยาบาลให้กลับมาพักต่อที่บ้านจนครบกำหนดระยะเวลากักตัว10 วัน เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้เน้นย้ำให้แยกกลุ่มอาการของผู้ป่วยโควิด-19 อย่างชัดเจน โดยใช้เกณฑ์การประเมินที่สำนักงานสาธารณสุขตั้งไว้ แล้วให้แพทย์วินิจฉัยเพื่อส่งต่อกลุ่มผู้ติดเชื้อไปพักรักษาตัวยังสถานที่เหมาะสม อย่าให้มาแออัดอยู่แต่ในโรงพยาบาลเพียงอย่างเดียว เนื่องจากโรงพยาบาลยังคงต้องรักษาผู้ป่วยด้วยโรคอื่น ๆ อีกด้วย ส่วนโรงพยาบาลเอกชน ก็ต้องรับผิดชอบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อยู่ในระบบประกันสังคมของตนเอง อย่าผลักภาระมาที่โรงพยาบาลรัฐ อีกทั้งยังต้องเตรียมพร้อมทั้งทางด้านบุคลากร แผนปฏิบัติ และอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ หากมีความจำเป็นต้องจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม, ศูนย์ CI, FAI เพิ่มขึ้นในส่วนตรงไหนที่เกิดการระบาดอย่างหนักก็ต้องสามารถดำเนินการได้ทันที
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: