สมุทรสาคร – “อุดม ไกรวัตนุสสรณ์” นายก อบจ.สมุทรสาคร เปิดใจหลัง กกต. วินิจฉัยแจกใบเหลือง ลั่นไม่ท้อ พร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ 1.3 แสนเสียง ปชช. มอบให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. ที่ 1274/2564 โดยมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาคเพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสาครใหม่ แทนนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ และสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ นายสุรวัช เรืองศรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.กระทุ่มแบน เขตเลือกตั้งที่ 5 ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสอง รวมทั้งให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุรวัชตามมาตรา 65 (1) ประกอบมาตรา 126
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 ก.พ. 2565 นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ หรือ “ปลัดแต” นายก อบจ.สมุทรสาคร เปิดใจกับผู้สื่อข่าวด้วยรอยยิ้มว่า ตนเองยังไม่อยากจะกล่าวอะไรตอนนี้ ไม่ใช่ว่าท้อหรือถดถอยจากคำพิจารณาดังกล่าว แต่เพราะเห็นว่าเรื่องที่ กกต. พิจารณาแล้วนั้น จะต้องนำเสนอต่อศาลอุทธรณ์ ซึ่งตนเองก็ต้องขอกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่หลายท่าน และพ่อแม่พี่น้องทั้งใน จ.สมุทรสาครและผู้ที่เคารพรัก ที่ได้โทรศัพท์หรือฝากข้อความมาให้กำลังใจแก่ตนและคณะผู้บริหาร อบจ.สมุทรสาคร อย่างมากมาย
ส่วนตัวนั้นก็จะต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ถึงความบริสุทธิ์ของคะแนนเสียง 131,537 คะแนน ที่พี่น้องชาวสมุทรสาครได้มอบความไว้วางใจให้ตนได้มาทำงานในหน้าที่นายก อบจ.สมุทรสาคร แต่ในระหว่างที่ กกต.ส่งเรื่องถึงศาลอุทธรณ์ แล้วศาลอุทธรณ์รับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณานั้น โดยกฎหมายตนและคณะผู้บริหารจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จนกว่าจะมีคำตัดสินจากศาล ขณะที่ทีมงานสมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาคร และทีมฅนทำงานทุกคน ก็จะยังคงทำหน้าที่เพื่อดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ต่อไปเหมือนเดิม สุดท้ายนี้ก็ขอขอบพระคุณในทุกกำลังใจที่มอบให้ตนและคณะผู้บริหาร ตนขอยืนยันครับว่า ตนไม่ท้อ ตนพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของทุกคะแนนที่มอบให้ตน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีที่ กกต. ได้วินิจฉัยให้ใบเหลืองแก่นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาครนั้น เนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ประมาณเดือน ต.ค. – พ.ย. 2563 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งรายหนึ่งได้ติดต่อให้นายสุรวัช เรืองศรี อดีตผู้สมัคร ส.อบจ.สมุทรสาคร เขต 5 กระทุ่มแบน ในนามผู้สมัครอิสระ ช่วยฝากหลานเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในสังกัดของเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน ซึ่งนายสุรวัช ได้แนะนำให้ไปพบกับบิดาของนายสุรวัช ซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวได้เข้าพบ แล้วดำเนินการให้หลานได้สมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนดังกล่าว
จากนั้นผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวได้ส่งข้อความขอบคุณนายสุรวัช ทางแอปพลิเคชันไลน์ที่นายสุรวัชและบิดาของนายสุรวัชช่วยเหลือให้หลานสาวได้เข้าโรงเรียนตามที่ประสงค์ โดยปรากฏภาพการสนทนาที่นายสุรวัชได้นำไปโพสต์ในบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “สุรวัช เรืองศรี” เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2563 ประมาณว่า ได้ช่วยฝากหลานของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวเข้าโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว และขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวลงคะแนนให้แก่นายอุดม
การกระทำของนายสุรวัช มีลักษณะเป็นการแสวงหาคะแนนนิยมจากประชาชนหรือสมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊กที่พบเห็นให้ลงคะแนนให้แก่นายอุดม อันเข้าลักษณะเป็นการจัดทำ ให้ เสนอให้สัญญา ว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายอุดม อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65(1) โดยนายอุดมย่อมได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้งจากการกระทำของนายสุรวัช เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรสาคร ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนายอุดมเกิดจากการเลือกตั้งที่มิได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสอง จนทำให้ทาง กกต. มีคำวินิจฉัยดังกล่าวออกมา
