สมุทรสาคร – ผู้การภาค 7 นำแถลงผลทลายแหล่งพักยาของ สภ.กระทุ่มแบน รวบ 2 ผู้ต้องหา ยาบ้า 1,593,020 เม็ด ขยายผลจากจับกุมพ่อค้ายา จ.สุราษฎร์ธานี
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2565 ที่สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย นายอาวุธ วิเชียรฉาย ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึง รอง ผบช.ภ.7, ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, ผกก.สภ.กระทุ่มแบน, นายอำเภอกระทุ่มแบน, เจ้าหน้าที่วิทยาการ จากกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 2 คน คือ นายสรัล หรือต้น ใส่น้อย อายุ 25 ปี กับ น.ส.นัยนา หรือหนิง รอดสิน อายุ 40 ปี
พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,593,020 เม็ด (796 มัด และ 5 ถุง) โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย”
ข่าวน่าสนใจ:
สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหานั้น ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการขนย้ายยาเสพติดของเครือข่าย นายสมนึก หรือกั๊ก รอดสิน อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา มาซุกซ่อนไว้ในห้องเช่า ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้เฝ้าสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่อง กระทั่งต่อมาเมื่อกลางดึกของวันที่ 12 พ.ย. ชุดสืบสวนฯ ร่วมกันเข้าตรวจสอบที่ห้องเช่าดังกล่าว เมื่อไปถึงพบนายสรัล หรือต้น ใส่น้อย ซึ่งเคยถูกศาลพิพากษาจำคุกคดียาเสพติด จำคุก 6 ปี และปรับ 450,000 บาท เพิ่งจะพ้นโทษได้รับการปล่อยตัวมาเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2565 แต่ก็มากระทำผิดซ้ำ โดยตรวจสอบพบยาบ้าจำนวน 20 เม็ด อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าข้างขวาของนายสรัล
จากนั้นจึงทำการตรวจค้นภายในห้องพักดังกล่าว พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อยู่ในกระสอบ 3 กระสอบ รวมยาบ้า 796 มัด มัดละ 2,000 เม็ด และอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน มีที่รูดปิด-เปิด ด้านบนแบบถุงยาอีกถุงละ 200 เม็ด จำนวน 5 ถุง (1,000 เม็ด) รวมยาบ้าจำนวนทั้งสิ้น 1,593,000 เม็ด ซึ่งจากการสอบถามนายสรัล ให้การว่ายาบ้าที่ตรวจพบภายในห้องพักนั้น น.ส.นัยนา หรือหนิง รอดสิน เป็นผู้ว่าจ้างให้ตนเฝ้า โดยตกลงค่าจ้างกันวันละ 1,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงไปที่หน้าห้องเช่า ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พบ น.ส.นัยนา จึงจับกุมนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน น.ส.นัยนา ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นพี่สาวของนายสมนึก หรือกั๊ก รอดสิน ที่ถูกจับกุมพร้อมพวกรวม 4 คน เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2565 โดยชุด ปส.4 พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ประมาณ 800,000 เม็ด ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนยาบ้าที่พบทั้งหมดนี้เป็นส่วนที่เหลืออยู่ ซึ่งน้องชายได้นำมาเก็บซุกซ่อนไว้ที่โฮมสเตย์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยให้พี่สาวเปิดห้องพักดังกล่าวเพื่อซุกซ่อนยาเสพติดของกลางจำนวน 1,593,000 เม็ด และว่าจ้างให้นายสรัล เป็นผู้เฝ้ายาบ้ารอขนย้าย แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อน
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ตามที่ตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจสมุทรสาคร ได้มีการสืบสวนกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง เพราะพื้นที่ภาค 7 เป็นพื้นที่เส้นทางสายหลักในการลงสู่พื้นที่ภาคใต้ ดังนั้นจึงต้องมีการเพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวังพื้นที่เส้นทางสายหลักทั้ง ถ.เพชรเกษม ถ.พระราม 2 ถ.แสงชูโต ตลอดจนเส้นทางเรียบแนวชายแดน ตามที่รัฐบาลได้เน้นหนักให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ประกอบกับขณะนี้ใกล้ถึงช่วงของการประชุมผู้นำเศรษฐกิจ APEC จึงต้องมีการเพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น
โดยทางฝ่ายสืบสวนมีการทำงานเชิงรุกอย่างหนักและมีการ RE-XRAY ทุกพื้นที่ทุกชุมชนทุกหมู่บ้าน เพื่อจะหาผู้เสพนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ส่วนการปราบปรามได้ยกระดับความเข้มข้นในการเข้าปราบปรามผู้กระทำผิดทั้ง 8 จังหวัด 104 สถานี โดยสนธิความร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งสืบทราบว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน แล้วทางฝ่ายสืบสวนของ สภ.กระทุ่มแบน ก็เข้าจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่รายนี้ได้ในที่สุด
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวอีกว่า สำหรับเครือข่ายยาเสพติดที่จับกุมได้นี้ มีทั้งผู้กระทำผิดรายใหม่และกระทำผิดซ้ำ ส่วนที่ว่ายาเสพติดทั้งหมดนั้นมีเส้นทางมาจากไหน และใครเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่แท้จริง หรือผู้ผลิตนั้น ทั้งหมดอยู่ระหว่างการขยายผลการจับกุมที่ขณะนี้ก็พอจะทราบข้อมูลทั้งหมดแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้ได้ตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดมาดำเนินคดี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: