สมุทรสาคร – อธิบดีกรมโรงงานฯ ตรวจสอบโกดังย่านคลองมะเดื่อ พบกากแคดเมียมเกือบ 500 ตัน ขยายผลจากโรงงาน 3 แห่งแรก เหลือต้องตามหาอีกราว 4.9 พันตัน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 เม.ย. 2567 นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายวรณัฏฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ์ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึง รอง ผกก.5 บก.ปทส ผอ.ทสจ.สมุทรสาคร นายอำเภอกระทุ่มแบน สส.สมุทรสาคร เขต 3 รอง ผกก.ปป.สภ.กระทุ่มแบน นายกเทศมนตรีเมืองคลองมะเดื่อ สาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายค้นเข้าตรวจสอบโกดังแห่งหนึ่งภายในซอยเลียบคลองตาเฉย เลขที่ 70/2 หมู่ 7 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยมีนายกรณ์วัชพล บุณะโกวิทย์ รับเป็นผู้ดูแล
จากการตรวจค้นพบกากแร่แคดเมียมและกากแร่สังกะสี ถูกบรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบ็คขนาดใหญ่ เก็บกองรวมกันไว้ภายในโกดังเป็นจำนวนมาก ลักษณะแต่ละถุงบิ๊กแบ็คนั้นมีสัญลักษณ์ตัว P ตามด้วยตัวเลข 3 ตัว และวันเดือนปีที่ขนย้ายออกจากหลุมฝังกลบที่ จ.ตาก ลักษณะเหมือนที่พบในโรงงานพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และชลบุรี จากการสอบถามผู้ดูแลโกดัง รับสารภาพว่ายินยอมให้เจ้าของบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด เช่าโกดังเก็บกากแคดเมียมและกากสังกะสีจริง เพื่อรอส่งต่อไปยังโรงงานปลายทางที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เป็นระยะเวลาประมาณ 5 เดือนแล้ว โดยเก็บค่าเช่าในราคาเดือน 20,000 บาท
นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า สืบเนื่องจากกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้สืบสวนหาเส้นทางการขนย้ายกากแคดเมียมและกากสังกะสีจากจังหวัดตากมาที่จังหวัดสมุทรสาคร ก่อนส่งต่อไปยังจังหวัดชลบุรี ที่ได้มีการเข้าจับกุมไปก่อนหน้าแล้วนั้น ในวันนี้ก็ได้ทำการขยายผล
จากการสอบถามผู้ต้องหาที่เป็นผู้ให้เช่าโกดังแห่งนี้ เบื้องต้นให้การรับว่าทางบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ได้มาเช่าโกดังตามสัญญาเช่า เพื่อนำกากแร่แคดเมียมและกากแร่สังกะสีที่รับมาจากจังหวัดตากเข้ามาเก็บไว้ภายในโกดังแห่งนี้ตั้งแต่เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว เพื่อรอจำหน่ายต่อไป ซึ่งเจ้าของผู้ให้เช่าโกดังแห่งนี้จะมีความผิดฐานครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ของเสียประเภทกากสังกะสีที่มีสารตะกั่วและแคดเมียม ตามความผิดแห่ง พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ซึ่งกากแร่แคดเมียมและกากแร่สังกะสีที่พบในโกดังแห่งนี้มีอยู่ประมาณ 312 ถุง หรือหากคิดเป็นน้ำหนักโดยรวมไม่น่าจะเกิน 500 ตัน ทั้งนี้ จะต้องไปดูสัญญาเช่าอีกด้วยว่าตามสัญญาระบุไว้ 1,500 ตันนั้น ทำไมเหลือเพียงเท่านี้ ตอนนี้ยอดรวมจากการประเมินที่ถูกตรวจพบแล้วทุกที่นั้น ก็ยังคงเหลือที่ต้องตามหาอีกราว 4,900 ตัน โดยจะต้องมีการขยายผลไปเรื่อย ๆ เพื่อตามหาส่วนที่ขาดหายไปกลับมาให้ได้ครบตามจำนวนที่เป็นจริง ซึ่งจะต้องมุ่งไปทั้งสถานที่กักเก็บหรือโรงงานที่จะนำสินค้าไปกักเก็บไว้ รวมถึงจุดขนส่งสินค้าทางเรือ มีทั้งท่าเรือกรุงเทพฯ กับ ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ล้วนเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ต้องทำการขยายผลสืบสวนทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด (แห่งที่ 1) ภายในซอยกองพนันพล เลขที่ 132 หมู่ 2 ต.บางน้ำจืด อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เป็นโรงงานหลอมหล่ออลูมิเนียม ซึ่งทาง กมธ.การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้ข้อมูลว่ามีการนำกากแคดเมียมและกากสังกะสีจากหลุมฝังกลบ จ.ตาก ใส่ในถุงบิ๊กแบ็คเข้ามาเก็บไว้เป็นจำนวนมาก โดยทางจังหวัดสมุทรสาครได้สั่งอายัดกากแคดเมียมและกากสังกะสีดังกล่าว ห้ามนำไปเข้าสู่กระบวนการผลิต และประกาศห้ามมิให้บุคคลใด ๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใด ๆ ในพื้นที่โรงงานดังกล่าวเป็นระยะเวลา 90 วัน
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2567 น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัทดังกล่าว พร้อมเปิดเผยข้อมูลว่าภายในโรงงานมีจำนวนกากแคดเมียมและกากสังกะสีจำนวน 2,440 ตัน จากยอดที่ต้นทางแจ้งออกมารวมประมาณ 13,450 ตัน โดยเริ่มมีการขนย้ายมาจาก จ.ตาก เข้ามาที่โรงงาน จ.สมุทรสาคร ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา โดย รมว.อุตสาหกรรม ให้ทางปลัดกระทรวงฯ สั่งย้ายอุตสาหกรรมจังหวัดตากไปช่วยราชการที่กระทรวงฯ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการอนุญาตให้ขนย้ายกากแคดเมียมออกมา พร้อมให้บริษัทฯ ดำเนินการขนย้ายออกเพื่อส่งกลับไปยังต้นทางให้หมดภายใน 7 วัน
ขณะเดียวกัน ตำรวจ ปทส. และกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้มีการสืบสวนขยายผลหากากแคดเมียมและกากสังกะสีที่หายไป กระทั่งวันที่ 6 เม.ย. 2567 ได้อายัดเพิ่มเติมล็อตใหญ่ 4,400 ตัน ภายในบริษัท อิฟง จำกัด (แห่งที่ 2) หมู่ 4 ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และวันที่ 7 เม.ย. 2567 อายัดได้อีก 1,034 ตัน ภายในบริษัท ซิน หงส์ เฉิง อินเตอร์ เทค (2008) จำกัด (แห่งที่ 3) ซอยบ่อดิน ต.บางน้ำจืด อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร และล่าสุดพบอีกประมาณ 500 ตัน ที่โกดังของนายกรณ์วัชพลฯ (แห่งที่ 4) ในพื้นที่ ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ดังกล่าว
