X

“กรมประมง” โชว์ทำลายซากสัตว์น้ำของกลาง มูลค่ากว่า 5.5 ล้านบาท

กรมประมง แถลงข่าวการทำลายซากสัตว์น้ำของกลาง ซึ่งศาลตัดสินคดีถึงที่สุดและตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ตั้งแต่ปี 2559 – 2562 รวม 10 รายการ มูลค่ากว่า 5.5 ล้านบาท


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ส.ค. 2562 ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง เขต 2 (สมุทรสาคร) ต.โคกขาม อ เมืองฯ จ.สมุทรสาคร กรมประมง จัดพิธีทำลายของกลาง ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าดังกล่าว ที่มาจากการกระทำความผิดและตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 จำนวน 10 รายการ รวมมูลค่าของกลางกว่า 5,500,000 บาท ประกอบด้วย ซากม้าน้ำแห้ง น้ำหนัก 130.6 กก. ซากปลาจิ้มฟันจระเข้แห้ง น้ำหนัก 7.2 กก. ซากปะการัง น้ำหนัก 155 กก. และอีก 57 ชิ้น ซากกัลปังหา 204 ชิ้น ซากจระเข้ 98 ชิ้น ซากเต่า 312 ชิ้น ซากตะพาบน้ำไทย 2 ชิ้น ซากดาวทะเล 9 ชิ้น ซากเปลือกหอย 2,225 ชิ้น ซากหอยงวงช้างตากแห้ง น้ำหนัก 9 กก. โดยมี นายไกสฤษดิ์ พูนพาณิชย์ หัวหน้ากลุ่มควบคุมการนำเข้าส่งออกสัตว์น้ำและปัจจัยการผลิต กรมประมง นายสุภาพ ไพรพนาพงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 2 (สมุทรสาคร) เจ้าหน้าที่กรมประมงและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี

ซึ่งการทำลายของกลางในครั้งนี้ ดำเนินการตามตามระเบียบกรมประมง ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่ตกเป็นของแผ่นดิน พ.ศ.2541 และมีสภาพชำรุดผุพังและเสื่อมสภาพ ไม่สามารถใช้งานและเก็บรักษาไว้ได้ โดยเป็นของกลางที่ตรวจยึดมาตั้งแต่ปี 2559 – 2561 นำมาทำลายด้วยวิธีการบดและฝังกลบ โดยกรมประมง ได้รับมอบของกลางมาจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ กรมศุลกากร 5 คดี จากการจับกุมผู้ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร 1 คดี จากการตรวจยึดบนอาคารผู้โดยสาร 10 คดี และจากการจับกุมการลักลอบค้าและครอบครองสัตว์ป่าภายในประเทศ 24 คดี ซึ่งกรมประมงมีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในการลักลอบนำเข้า ส่งออก ค้า หรือครอบครองสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการลักลอบนำเข้าส่งออกสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าที่ปรากฎตามบัญชีแนบท้ายประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดชนิดของสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าที่ห้ามนำเข้าหรือส่งออกที่ไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมประมง และการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 โดยศาลมีคำพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว

สำหรับการทำลายซากสัตว์น้ำของกลางในครั้งนี้ มาจากการกระทำความผิดรวม 16 คดี ของกลางจำนวน 10 รายการ ซึ่งส่วนใหญ่ของกลางเหล่านี้ จะมีการลักลอบนำไปขายทำยา ทำเครื่องประดับ หรือนำไปตกแต่งอควาเรียม เรื่องมูลค่าความเสียหายก็ส่วนหนึ่ง แต่คุณค่าของทรัพยากรเหล่านี้ บางชนิดอยู่ในสภาวะที่ใกล้สูญพันธุ์ บางชนิดกว่าจะเจริญเติบโตขึ้นมาใช้เวลาเป็นร้อยปี จึงเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจที่จะประเมินค่าได้ โดยปัจจุบันปัญหาดังกล่าวทวีความรุนแรงมากขึ้น มีการลักลอบการนำเข้าด้วยวิธีการที่หลากหลาย และหลายช่องทางเพื่อหลบเลี่ยงการจับกุมจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งการกระทำความผิดนี้ถือว่าเป็นอาชญากรรม มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่งผลการลักลอบในแต่ละครั้งส่งผลต่อภาพลักษณ์ในด้านการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ กรมประมงมุ่งหวังว่าการทำลายของกลางในครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ข้อมูลสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เยาวชนและประชาชน ให้รับรู้และตระหนักถึงปัญหาการลักลอบการนำเข้าส่งออกการค้าและครอบครองสัตว์น้ำ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และนำไปสู่การอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยากรสัตว์น้ำเหล่านี้ของประเทศไทยให้คงอยู่ต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of กิตติกร นาคทอง

กิตติกร นาคทอง

กิตติกร นาคทอง จบการศึกษารัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันเป็นผู้สื่อข่าวเว็บไซต์สาครออนไลน์ จังหวัดสมุทรสาคร เน้นนำเสนอความเคลื่อนไหวในท้องถิ่น และการพัฒนาเมืองในจังหวัดสมุทรสาครเป็นหลัก