สงขลา-“ไพเจน”ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารจังหวัดสงขลา (อบจ.) ลงลุยพื้นที่อย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาพร้อมรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด ผ่าน “สภากาแฟยามเช้า” ร่วมถกเพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหาด้วย พันธกิจ “รวมพลังร่วมสร้างสุข”
“การลงพื้นที่ของผมในทุก ๆ วันเหนื่อยแต่มีความสุข สุขที่ผมได้ทำหน้าที่เพื่อพ่อแม่พี่น้องบ้านผม และได้รับความไว้วางใจอย่างเต็มที่ ผมได้รับฟังการบอกเล่าถึงปัญหาต่างๆ พร้อมข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์มากมาย เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาจากชุมชนท้องถิ่นบ้านเรา การลงพื้นที่แต่ละแห่งได้รับความร่วมมือจากเพื่อนพ้องน้องพี่จากเครือข่ายทุกอาชีพขันอาสาร่วมทีมอย่างเต็มที่ ที่สำคัญการลงพื้นที่แต่ละชุมชนได้รับการต้อนรับด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง พร้อมข้อเสนอแนะ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตลอดจนคำแนะนำต่าง ๆ และหากเรื่องใดที่ผมสามารถประสานงานได้จะขันอาสาทำทันที”
นายไพเจน กล่าวว่า การลงพื้นที่พบปะและเยี่ยมประชาชนในตำบลชิงโค เหมือนได้ย้อนอดีตในวัยเด็ก ในวันนี้นอกจากตัวเขาเองด้วยแนวคิดและความมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อพัฒนาบ้านเกิด มั่นใจในความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ยังมีเพื่อนและเครือข่ายพลังของพี่น้องชาวสงขลาเดินเคียงข้าง โดยเฉพาะ เพื่อนพ้องน้องพี่จากชุมชนบ้านชิงโค และชุมชนอื่น ๆ บ้านชิงโคท่าออก บ่อสระท่าออก บ้านบ่อสระ บ้านดีหลวง บ้านวัดเลียบ ชุมชนตำบลชิงโค อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา พื้นที่ดังกล่าวพี่น้องส่วนใหญ่ทำสวน พืชที่เป็นจุดเด่นของที่นี่คือมะม่วงเบา และเลี้ยงสัตว์ ทำอาชีพเสริมบ้างในด้านค้าขาย, รับจ้าง ลูกหลานมักไปศึกษาหาความรู้และทำงานนอกพื้นที่ หากทุกคนมีโอกาสกลับบ้าน มีงาน มีอาชีพที่มั่นคงและร่วมพัฒนาบ้านเกิดอย่างแน่นอน เพราะพ่อแม่พี่น้องและลูกหลานของพวกเราในแต่ละชุมชน รวมพลังคนรุ่นก่อนที่มีประสบการณ์และคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ ยึดมั่นในวิถีแห่งคุณค่าคาบสมุทรสทิงพระ ซึ่งมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
“การลงพื้นที่ครั้งนี้มีโอกาสได้พบ “หมอภูมิปัญญาพื้นบ้าน” นอกจากการแนะนำตัวยังได้พูดคุยเยี่ยมเยียน ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นเสมือนลูกหลานที่ถูกฝากให้ทำหน้าที่พัฒนาท้องถิ่น ตนรู้สึกภูมิใจและเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างชุมชนให้เกิดความสุขที่ยั่งยืน จึงมุ่งมั่นและตั้งใจขับเคลื่อนแนวคิดการสืบทอดเพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ชุมชนยังคงรักษาและสืบทอดประเพณี วัฒนธรรมความเชื่อความศรัทธาให้คงอยู่ จากเรื่องราวที่ได้รับฟังจากพี่น้องประชาชนซึ่งเป็นชาวบ้านส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ ทั้งด้านความเชื่อจากครูหมอโนรา ภูมิปัญญาด้านการทำมาหากิน การประกอบอาชีพ ภูมิปัญญาด้านการรักษา ภูมิปัญญาด้านการกินอยู่หรือโภชนการ แต่ยังขาดการบูรณาการการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบจากพื้นที่”
ไพเจน เปิดเผยถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจในเส้นทางสายเมืองพร้อมย้ำถึงแนวคิดการตัดสินใจครั้งนี้ด้วยเหตุผลสำคัญ 4 ประการ ประการแรกจากปัญหาของประชาชนความเดือดร้อน จึงเห็นช่องทางและโอกาสการพัฒนาสงขลาให้ก้าวหน้าก้าวไกลได้ ประการที่สอง ด้วยความรู้ความสามารถของจึงเชื่อมั่นในการทำให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยวิธีการทำงานที่ไม่แบ่งพรรค ไม่แบ่งพวก แต่รวมเป็นพวกเดียว คือ พวกเราชาวสงขลา รวมทั้งตั้งมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต งบประมาณทุกบาทถึงประชาชนเต็ม ๆ ประการที่สามเกิดที่สงขลา สงขลาได้หล่อหลอมให้สำนึกรักแผ่นดินเกิด ต้องทดแทนบุญคุณแผ่นดินเกิด จึงเต็มใจรับใช้ชาวสงขลา ร่วมพัฒนาจังหวัดไปด้วยกัน และประการที่สี่มีพันธมิตรที่ดีในการทำงาน ไม่โดดเดี่ยว เพราะมีผู้นำท้องถิ่นและประชาชนเป็นผู้ร่วมพัฒนาจังหวัดทั้งเสนอความต้องการ ให้คำแนะนำ และช่วยเหลือกัน ที่สำคัญมีครอบครัวเป็นกำลังใจเคียงข้าง เหตุผลผลทั้งหมดนี้จึงตัดสินใจในการลงสมัครทางการเมืองครั้งนี้
ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวถึงแนวทางการขับเคลื่อนพัฒนาจังหวัดสงขลาหลายแนวทางครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันสงขลาต้องเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งมุ่งเน้นการท่องเที่ยวชุมชน การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การท่องเที่ยว ขึ้นอยู่กับเอกลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวนั้น ๆ เพราะเรามีทรัพยากร “ประเพณี วัฒนธรรม อาหารพื้นบ้าน รวมทั้งมีป่า เขา โหนด หนอง นา เล” ที่เป็นต้นทุนที่ดีเยี่ยมเพื่อการท่องเที่ยว
ไพเจน ย้ำถึงพันธกิจสำคัญในฐานะว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา “รวมพลังร่วมสร้างสุข” ได้รับการตอบรับจากการเปิดตัวปราศรัยครั้งแรกที่บ้านเกิด ที่อำเภอสิงหนครจากพี่น้องประชาชนอย่างเนื่องแน่น ตลอดจนเสียงตอบรับจาการลงพื้นที่ด้วยความอบอุ่น ตนพร้อมมุ่งมั่นเดินหน้านำความรู้ความาสามารถ และประสบการณ์ขันอาสาเข้ามาทำหน้าที่พัฒนาสงขลาบ้านเกิดอย่างเต็มที่
