ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 การแก้ปัญหารับมือเศรษฐกิจ พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงนับเป็นความท้าทายที่น่าจับตา ในการขับเคลื่อนการบริหารงาน ของ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ “จุรินทร์ ลักษณลักษณวิศิษฏ์” ด้วยแนวคิดเชิงรุก พร้อมลงลุยพื้นที่เพื่อกำกับติดตามการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างใกล้ชิด แก้ปัญหาราคาผลผลิตของเกษตรกรอย่างครอบคลุม ด้วยการบริหารจัดการบูรณาการทุกภาคส่วน ขณะเดียวกันได้เร่งรัดออกใบรับรองการตรวจสวน หรือ GAP ให้กับเกษตรกรมั่นใจแผนรับมือ 16 ด้าน ดันส่งออกผลไม้ไทยมั่นใจลู่ทางสดใส
การลงพื้นที่ช่วงวันหยุด 29-30 พฤษภาคม ที่ผ่านมาในพื้นที่ภาคใต้ของ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ “จุรินทร์ ลักษณลักษณวิศิษฏ์” เกาะติดปัญหา และเร่งแก้ไขอย่างต่อเนื่อง อย่างเป็นระบบ เพื่อติดตามสถานการณ์จุดรับซื้อ ผลผลิตพริกเขียวมัน การร่วมรับฟังข้อสรุปแนวทางการส่งเสริมการขายใหม่ ๆ จากเกษตรกรชาวสวนมังคุด 23 กลุ่ม จ.นครศรีธรรมราช ตลอดจนการติดตามการช่วยเหลือเกษตรกร จ. สงขลาเพื่อช่วยเกษตรระบายฟักทองล้นตลาด
การลงพื้นที่เพื่อเกาะติดสถานการณ์ ได้รับความร่วมมือเครือข่ายภาคีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา ภาคเอกชน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยเฉพาะความร่วมมือจากภาคเอกชนเข้ามาทำหน้าที่ช่วยรับซื้อและระบายผลิตไปแล้วมากว่า 400 ตัน และอยู่ระหว่างการระบายผลผลิตอีกว่า 400 ตัน ทำให้ราคาผลผลิตของเกษตรกรขยับตัวเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1-2 เดือนที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาพืชผลทางการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในเรื่องพริกเขียวมัน และฟักทอง ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
“การแก้ปัญหาผลผลิตฟักทอง ทางกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดสงขลา สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา ประสานหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา หน่วยงานทหาร และห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ รับซื้อฟักทองจากเกษตรกรโดยตรง ช่วยให้สามารถกระจายฟักทองได้เป็นจำนวนมาก โดยที่ผ่านมามีการกระจายผลผลิตฟักทองไปแล้ว กว่า 400 ตัน มีผลผลิตฟักทองกระจายไปยังกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก จนถึงชายแดนจังหวัดตราด และยังมีการประสานรับออเดอร์จากหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งห้างสรรพสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกฟักทองโดยตรงในช่วงสถานการณ์นี้”
ภาพรวมผลผลิตฟักทองที่จังหวัดสงขลา ต่อปีอยู่ที่ประมาณ 4,000 ตัน ปลูกมากที่สุดในพื้นที่อำเภอระโนด 2,800 ตัน อำเภอเทพา 350 ตัน อำเภอสทิงพระ 300 ตัน อำเภอกระแสสินธุ์ 250 ตัน และอำเภอจะนะ 225 ตัน มาตรการในครั้งนี้จะสามารถช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกฟักทองได้อีกทางหนึ่ง และจะดำเนินการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ในส่วนของผลไม้อื่น ๆ ทางกระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียม 16 มาตรการรองรับไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็การบริหารงานทางกระทรวงพาณิชย์ได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และเตรียมแผนรองรับผลผลิตผลไม้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะการส่งออก ดึงภาครัฐและเอกชน 36 องค์กรร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใต้แนวคิด“การขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2564” 16 ด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาผลไม้ตกต่ำ โดยเฉพาะมาตรการเร่งรัดการตรวจรับรอง GAP มีเป้าหมายว่าปี 2564 จะตรวจรับรองให้ได้อย่างน้อย 120,000 แปลง รวมถึงมาตรการการผ่อนปรนกฎระเบียบการเคลื่อนย้ายแรงงาน เก็บผลไม้จากภาคตะวันออกไปสู่ภาคใต้ได้ ที่สำคัญมาตรการ การส่งเสริมการส่งออกออนไลน์ โดยมอบหมายให้ทูตพาณิชย์เป็นเซลส์แมนจัดเจรจาจับคู่ซื้อผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงการส่งเสริมการส่งออกผลไม้ในรูปแบบผสมผสาน ไฮบริด เช่น จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา เอเชียใต้ อินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถาน เพื่อให้กระจายสินค้าเข้าถึงผู้บริโภค ให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ
