“เศรษฐา อดีตสจ.3สมัยขออาสาลงสนามสู้ศึกเลือกตั้งเขต1 พิษณุโลก หลังพี่น้องเมืองสองแควเสียโอกาสการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าแห่งภูมิภาคเหนือตอนล่าง สวมเสื้อในนาม “พรรคพลังประชารัฐ” ลงสนามแข่งขันหวังลดความเหลื่อมล้ำ-ขัดแย้งเร่งพัฒนาเมืองสู่คุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
นายเศรษฐา กิตติจารุรักษ์”ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางในการตัดสินใจลงสนามเลือกตั้งสมาชิกสภาราษฏรว่า “พี่น้องชาวพิดโลกของเราเสียโอกาสมานาน ตนมีความใกล้ชิดและคลุกคลีกับชาวบ้านมานานในฐานะสมาชิกสภาจังหวัดพิษณุโลกหรือสจ.เมืองพิษณุโลกเขต1อำเภอเมืองเห็นปัญหาและความเหลื่อมล้ำต่างๆ โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำทางโอกาสการพัฒนาเมืองหลายแนวคิดและหลายโครงการของเมืองและเครือข่ายภาคประชาคมต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองยังไม่ได้รับการขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรมต่อพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ ทั้งๆที่งพิดโลกมีศักยภาพของเมือง ทั้งระบบขนส่ง ผลผลิตทางการเกษตร ทุนทางวัฒนธรรมสังคมและชุมชนท้องถิ่นโดยมีสถาบันทางการศึกษาและบุคคลากรที่มีศักยภาพ ถึงเวลาแล้วที่ผมขออาสา”
เขาย้ำจึงจุดยืนในการเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีแนวทางชัดเจนในการสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้งซึ่งส่งผลให้แนวทางการขับเคลื่อนงานต่างๆ ที่ได้ดูแลพี่น้องประชาชนได้สานต่อได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำโดยเฉพาะการเข้าถึงระบบมาตรฐานการบริการของประชาชนทุกคนอย่างก้าวข้ามข้อจำกัด การก้าวข้ามความขัดแย้งๆ ต่างๆ โลกเปลี่ยนประเทศไทยต้องเปลี่ยน
เศรษฐาย้ำให้ฟังอย่างน่าสนใจว่า ทุกคนปรารถนาที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง ให้ประชาชน เพื่อเป็นทางเลือกให้เขาเลือกได้ พรรคพลังประชารัฐจะเป็นพรรคการเมืองที่รวบรวมพลังจากทุกฝ่าย และภาครัฐเพื่อเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศ มาสานฝันนำเสนอนโยบายให้กับทุกคนและมองข้ามความขัดแย้ง ในพื้นที่พิษณุโลกเขต1เป็นพื้นที่ที่รวบรวมพลังจากทุกฝ่าย ทั้งภาคประชาสังคม ภาคนักวิชาการ ภาคเอกชน และภาครัฐโดยมีเครือข่ายกรรมการสุขภาพและการออกกำลังกายรูปแบบต่างๆ ตลอดจนกิจกรรมทางศาสนาช่วยกล่อมเกลาช่วยให้สังคมเมืองพิษณุโลกน่าอยู่มากขึ้นซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของวิถีไทยและการมีส่วนร่วมการพัฒนาบ้านเมือง โดยมี “วัดใหญ่”และมีกิจกรรมวิถีพุทธเสมือนสะพานบุญเชื่อมชุมชนและสังคมยุคใหม่ยุคดิจิทัลยังคงฐานรากที่เข้มข็ง และเป็นโอกาสสำคัญการเปิดเมืองพิษณุโลก โอกาสการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าแห่งภูมิภาคในฐานะหัวเมืองสำคัญภาคของภาคเหนือตอนล่าง “สี่แยกอินโดจีน”
