สงขลา-เพื่อยกระดับความปลอดภัยในคุณภาพขีวิต และการบริการประชาชนชาวสงขลาเฮ! สะพานลอยข้ามถนนด้วยระบบไฟฟ้าหน้ารพ.สงขลาแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้ หลังอบจ.สงขลา หนุนงบกว่า 69 ล้านบาท
“เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับการแก้ไขปัญหาเพื่อพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะผู้เจ็บป่วย ผู้สูงอายุ และผู้พิการในการแก้ปัญหาเรื่องสุขภาพเป็นปัญหาที่ภาครัฐต้องสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก และสิ่งสาธารณประโยชน์ ทางอบจ.สงขลา มีนโยบายสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ สตรี ผู้ป่วย เด็กและผู้พิการ ผู้ใช้บริการตรวจรักษากับโรงพยาบาลต้องเดินข้ามถนนซึ่งมีจราจรคับคั่งโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน จนบางครั้งเกิดอุบัติเหตุกับผู้ป่วยที่ต้องเดินข้ามถนน จึงได้ขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนโดยใช้บันไดเลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งแล้วเสร็จและเปิดให้บริการแล้ว” นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ. สงขลา กล่าวถึงผลการดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ต้องดูแลทุกกลุ่มอย่างครอบคลุม
สำหรับการก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนโดยใช้บันไดเลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งในรายละเอียดตรงนี้จะมีสองส่วนด้วยกันคือ โครงการฯ ดังกล่าวนี้จะมีขึ้นลิฟท์ครั้งหนึ่ง และต่อด้วยบันไดเลื่อน และลิฟท์ลงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการข้ามจากฝั่งหนึ่งที่จะนำผู้ป่วย หรือบุคคลทั่วไปที่มาจาก 4 อำเภอ คืออำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำภอสทิงพระ และอำเภอสิงหนคร อ.เมืองสงขลา ข้ามมายังฝั่งหน้าโรงพยาบาลสงขลา ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยที่ต้องเดินทางมารักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลา รวมถึงจะมีทางเดินที่มีหลังคาจากลิฟท์เชื่อมไปจนถึงตัวโรงพยาบาลสงขลา ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย หรือผู้มารับการบริการจากโรงพยาบาลสงขลา
ซึ่งโครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งได้มีการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนว่า ไม่ได้รับความสะดวกในการที่จะข้ามถนนจากฝั่งหน้าวิทยาลัยประมง ไปยังอีกฝั่งหนึ่งคือ หน้าโรงพยาบาลสงขลา เนื่องจากถนนเส้นดังกล่าว เป็นถนนเส้นหลักมีปริมาณรถหนาแน่นเกือบตลอดเวลา และบันไดทางข้ามในปัจจุบันก็ลำบากต่อการขึ้นลงโดยเฉพาะในผู้ป่วย หรือผู้พิการ ดังนั้นนายไพเจน นายกอบจ.สงขลาตระหนักถึงปัญหาและมีแนวทางแก้ไข จึงจัดสรรงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา จัดโครงการก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนโดยใช้ระบบไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยลิฟท์ บันไดเลื่อน และติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้มาตรฐานเป็นการขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ท้องถิ่นได้เข้ามาดูแลทุกกลุ่มทุกช่วงวัย
การจัดสวัสดิการสังคมในอนาคตควรเป็นการจัดสวัสดิการในรูปแบบเพื่อคนทุกกลุ่มต้องมีการเตรียมความพร้อมให้กับประชาชนเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการสังคมในเชิงพหุวัฒนธรรม โดยภาครัฐทำหน้าที่ในการดูแลควบคุมมาตรฐานและประเมินผลในส่วนของภาคเอกชน ควรส่งเสริมให้ภาคเอกชนที่เข้ามาดำเนินกิจการ มีส่วนในการรับผิดชอบต่อการจัดสวัสดิการสังคมให้มากขึ้น
