ก้าวสู่อนาคตเกษตรอัจฉริยะ – “ศูนย์การเรียนรู้การเกษตรนาหมอศรี” เติมเต็มศักยภาพชุมชนสงขลา
นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างศูนย์การเรียนรู้การเกษตรนาหมอศรีในอำเภอนาทวี จ.สงขลา พร้อมด้วยนายสุธี สังข์ทอง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาหมอศรี นายสมเดช หวังแอ ประธานศูนย์ฯ และนายณัฐสิทธิ์ หวังใบ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลนาหมอศรี ที่ร่วมแสดงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลในการพัฒนาทักษะการเกษตรของเยาวชนและประชาชนในท้องถิ่น
ศูนย์การเรียนรู้การเกษตรแห่งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการเปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงความรู้และนวัตกรรมทางการเกษตรที่ทันสมัย ด้วยการเสริมสร้างทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมทั้งปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
นายไพเจนกล่าวถึงโครงการนี้ว่าเป็น “ศูนย์กลางแห่งอนาคต” ที่ไม่เพียงแต่ให้ความรู้พื้นฐานการเกษตรเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาทักษะและความคิดสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์ความก้าวหน้าของโลกในศตวรรษที่ 21 ที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในทุกมิติของชีวิต
การสนับสนุนการพัฒนาการเรียนรู้การเกษตรนาหมอศรีนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น อันจะนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเกษตร และเป็นแรงผลักดันให้จังหวัดสงขลาพัฒนาไปสู่เมืองแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน
โดยเฉพาะในประเด็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ศูนย์การเรียนรู้การเกษตรอัจฉริยะที่นาหมอศรี สามารถทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เทคโนโลยีสำหรับเกษตรกรในท้องถิ่น รวมถึงการส่งเสริมทักษะด้านเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ที่จำเป็นสำหรับการทำเกษตรสมัยใหม่การฝึกอบรมและการสนับสนุนจากภาครัฐ การจัดอบรมทักษะใหม่ๆ และโครงการสนับสนุนทุนในการพัฒนาเกษตรอัจฉริยะช่วยเสริมให้เกษตรกรมีความรู้และพร้อมที่จะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเพาะปลูกได้มากขึ้น
การขับเคลื่อนแนวคิดภายใต้แนวคิดเพื่อพัฒนาด้านการเกษตร ของผู้นำท้องถิ่น “ไพเจน”การเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเกษตรปลอดสารเคมีและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน สงขลามีศักยภาพในการพัฒนาเกษตรปลอดสารพิษ การใช้ชีวภัณฑ์และสารสกัดจากธรรมชาติ รวมถึงการจัดการน้ำและดินอย่างประหยัด การลดปัญหาขยะการเกษตรด้วยการแปรรูป การใช้เทคโนโลยีในการแปรรูปขยะหรือวัสดุเหลือใช้จากภาคการเกษตรจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถสร้างรายได้เสริมให้กับชุมชนได้อีกทางหนึ่ง และที่สำคัญ การเชื่อมโยงตลาดออนไลน์และการเกษตรแบบตรงสู่ผู้บริโภค การตลาดออนไลน์ (E-commerce) ของผลิตภัณฑ์เกษตร สงขลาสามารถใช้แพลตฟอร์มการค้าขายออนไลน์เพื่อเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ การตลาดแบบตรงสู่ผู้บริโภค (Direct-to-Consumer) สามารถช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนจากพ่อค้าคนกลางและเพิ่มรายได้จากการขายผลผลิตโดยตรง การสร้างตราสินค้าเกษตรชุมชน การสร้างแบรนด์สินค้าท้องถิ่นที่มีจุดเด่นด้านความสดใหม่และความปลอดภัยสามารถดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและคุณภาพของอาหาร ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน
ความร่วมมือและการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน การสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรอัจฉริยะ โดยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และทรัพยากรต่าง ๆ จะช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่สงขลามีโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรที่ทันสมัยและมีความเป็นอัจฉริยะสูงขึ้น
การพัฒนาด้านเกษตรอัจฉริยะในจังหวัดสงขลานั้นนับว่าเป็นอีกก้าวสำคัญที่ไม่เพียงแต่สร้างโอกาสให้กับเกษตรกรในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนและผลักดันจังหวัดให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นเมืองแห่งการเกษตรที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอนาคต
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: