งานของแผ่นดิน เป็นงานส่วนรวม มีผลเกี่ยวเนื่องถึงความเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงของบ้านเมืองและทุกข์สุขของประชาชนทุกคน ข้าราชการผู้ปฏิบัติบริหารงานของแผ่นดิน จึงต้องสำนึกตระหนักในความรับผิดชอบที่มีอยู่ และตั้งใจพยายามปฏิบัติหน้าที่โดยเต็มกำลังความสามารถด้วยความเข้มแข็งสุจริต และด้วยปัญญารู้คิดพิจารณาว่าสิ่งใดเป็นความเจริญ สิ่งใดเป็นความเสื่อมอะไรเป็นสิ่งที่ต้องทำ อะไรเป็นสิ่งที่ต้องละเว้นและกำจัด อย่างชัดเจน ถูก ตรง”พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานแก่ข้าราชการพลเรือน เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ปีพุทธศักราช 2550
ความหมายของ “ข้าราชการ”ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 หมายถึง บุคคลที่รับการบรรจุแต่งตั้งให้รับราชการปฏิบัติหน้าที่และรับเงินเดือนในกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ หน่วยงานที่บุคคลเหล่านี้ปฏิบัติงานเรียกว่า ส่วนราชการ ดังนั้นกล่าวได้ว่า อาชีพ “ข้าราชการ”จึงมีความสำคัญในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติบริหารงานของแผ่นดิน เป็นกลไกที่ช่วยขับเคลื่อนนโยบายของรัฐไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ
วันข้าราชการ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมากับการเข้ารับรางวัล “ข้าราชการดีเด่น”รางวัลแห่งชีวิตของรองศาสตราจารย์ดร.วิทยาธร ท่อแก้ว ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ ในสาขาวิชานิเทศศาสตรมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เหนือความภาคภูมิใจกับรางวัลอันทรงเกียรติ คือการเป็นบุคคลต้นแบบ “ข้าราชการ”ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ โดยมีรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2561 เป็นเครื่อง การันตีความสามารถในการทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ โดยประพฤติตนตามกรอบความดีงาม 3 ประการ คือ การครองตน การครองคน และการครองงาน ด้วยผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้อื่นได้ จึงถือได้ว่าเป็นผู้มีผลสัมฤทธิ์ของงาน มีคุณธรรมจริยธรรม ดำรงตนอย่างสมศักดิ์ศรีข้าราชการ ส่งเสริมให้ข้าราชการทั้งหลายได้ยึดถือเป็นแบบอย่าง
“การครองตน”รองศาสตราจารย์ ดร. วิทยาธร ท่อแก้ว รับราชการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2522 โดยปฏิบัติงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ แก่งานในหน้าที่รับผิดชอบด้วยตนเอง มีความขยันหมั่นเพียรทำให้ได้รับมอบหมายในการทำงานที่นอกเหนือจากหน้าที่อยู่บ่อยครั้ง ก่อให้เกิดประสบการณ์ทั้งงานในหน้าที่ของตนเองและงานอื่น ๆ ในส่วนของงานทางวิชาการเมื่อเป็นอาจารย์สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ในขณะที่สาขาวิชามีภาระงานด้านเขียนเอกสารการสอนที่รับผิดชอบหลายชุดวิชา รองศาสตราจารย์ ดร. วิทยาธร ท่อแก้ว ยังได้แต่งตำราวิชาการ จำนวน 3 เล่ม และทำผลงานวิจัยให้องค์กรต่าง ๆ ซึ่งได้รับแหล่งทุนภายนอกไม่น้อยกว่า 40 โครงการ รวมเงินไม่น้อยกว่า 450 ล้านบาท ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ย่อท้อ มีความรับผิดชอบในหน้าที่ด้านการเรียนการสอน การวิจัย การบริการวิชาการและการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และช่วยเหลืองานต่าง ๆ ของสาขาวิชาและมหาวิทยาลัย ปฏิบัติงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายแล้วเสร็จไม่ต้องติดตามทวงถามด้วยความเรียบร้อย ในส่วนงานที่เป็นกลุ่มคณะมีการติดตามงานและปฏิบัติงานด้วยความตั้งใจจนงานสำเร็จ ด้วยความอดทน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาอุปสรรคใด ๆ
ด้านครอบครัวมีความรับผิดชอบต่อครอบครัวเป็นอย่างดี รับภาระในการอบรมสั่งสอนบุตร และปลูกฝังหลักศีลธรรมจรรยาความรักในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อีกทั้งยังดูแลบิดามารดา ทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจ การเป็นข้าราชการและเป็นครอบครัวราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ จึงปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาทในด้านเศรษฐกิจพอเพียง ระมัดระวังดูแลรักษาและประหยัดในการใช้ทรัพยากรของส่วนร่วม การมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาด้วยการยึดศีล 5 เป็นหลักในการดำเนินชีวิต ปฏิบัติศาสนกิจ ทำบุญตักบาตรอย่างสม่ำเสมอ มีความเสียสละต่อส่วนรวมและซื่อสัตย์สุจริต มีความเป็นกัลยาณมิตร และมีน้ำใจต่อทุกคน
เนื่องจากรองศาสตราจารย์ ดร. วิทยาธร ท่อแก้ว เติบโตในครอบครัวเกษตรกรรม มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัด ได้รับการอบรมและปลูกฝังจากพ่อแม่ เรื่อง การใฝ่การเรียนรู้ และบริหารจัดการในฐานะผู้ประกอบการ มาตั้งแต่เด็ก ๆ จึงได้ถ่ายทอดแนวทางไปยังบุตรทั้งสองคนในเรื่อง การใฝ่การเรียนรู้และบริหารจัดการในฐานะผู้ประกอบการเป็นผลสำเร็จ กล่าว คือ บุตรชายคนแรก ปัจจุบันอายุ 32 ปี เป็นวิศวกร ประจำบริษัท ปตท. มหาชน สำเร็จการศึกษาปริญญาโท ทางด้านวิศวกรรมอุตสาหการ จากประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นเจ้าของผู้ประกอบการครีมบำรุงผิว ซึ่งเป็นธุรกิจออนไลน์ ได้รับรางวัลเป็นพนักงานดีเด่น เป็นผู้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมการสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาองค์กรหลายครั้ง ส่วนบุตรชายคนที่ 2 ปัจจุบันอายุ 20 ปี กำลังเรียนชั้นปีที่ 3 คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีผลการเรียนดี (3.89) และช่วยเหลือกิจกรรมของคณะด้านวิเทศสัมพันธ์ และงานสาธารณะประโยชน์มาตลอด และเป็นเจ้าของผู้ประกอบการจำหน่ายนาฬิกาข้อมือสำหรับนักสะสม ซึ่งเป็นธุรกิจออนไลน์ ในแวดวงนาฬิกาข้อมือ ให้ฉายา “ดาวรุ่งดวงใหม่ที่อายุน้อย และมีความเชี่ยวชาญด้านนาฬิกาข้อมือ” สามารถหารายได้ด้วยตนเอง มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษ เนื่องจากมีประสบการณ์เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 1 ปี
“การครองคน”รองศาสตราจารย์ ดร. วิทยาธร ท่อแก้ว ปฏิบัติงานในสาขาวิชานิเทศศาสตร์ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญ คือ ประธานกรรมการประจำสาขาวิชานิเทศศาสตร์กรรมการประจำสาขาวิชา กรรมการสภาวิชาการ ประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตรนิเทศศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาบัณฑิต ประธานคณะทำงานต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนงานสาขาวิชาทั้งนี้เนื่องจากเป็นผู้เอาใจใส่ ติดตามงาน มีผลผลิตของงานและสามารถประสานสัมพันธ์กับบุคลากรของสาขาวิชาได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ได้รับความเชื่อถือและมอบหมายให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายทรัพยากรบุคคลและพัฒนาระบบได้เปิดโอกาสทุกคนในหน่วยงานที่กำกับได้แสดงความสามารถที่ตนมีอยู่ มอบหมายงานให้เหมาะสมกับความรู้และทักษะของผู้รับผิดชอบ รับฟังความคิดเห็นของผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นผู้นำและรับผิดชอบในการดำเนินงาน พัฒนาศักยภาพของผู้ใต้บังคับบัญชาภายใต้หลักคิดที่ว่า ทุกคนมีความสามารถ พยายามผลักดันให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนทำงานเพื่อมหาวิทยาลัย ด้วยความเสียสละ และให้ยึดกฎระเบียบแนวทางของมหาวิทยาลัย ให้กระทำทุกสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่มหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เล็กน้อยก็ตาม ตัดสินวินิจฉัย แก้ไขปัญหาโดยใช้เหตุผล และทางค้นหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ สร้างเสริมความรัก ความสามัคคี ความเป็นหมู่คณะด้วยการร่วมคลุกคลีทำงานด้วยกันและร่วมกิจกรรมในทุกรูปแบบทั้งของมหาวิทยาลัยและสำนัก และกระตุ้นให้บุคลากรมีศรัทธาเรื่องทำดีย่อมต้องได้รับผลดีตอบแทน
“การครองงาน”รองศาสตราจารย์ ดร. วิทยาธร ท่อแก้ว เป็นผู้มี ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา นั่นคือ ความมีฉันทะ หมายถึงมีความรักงาน และรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ตนกระทำอยู่ทั้งในงานวิชาการและในงานบริหาร ใฝ่ศึกษาแสวงหาความรู้ ค้นคว้าให้งานประสบผลดียิ่งๆ ขึ้นไป ดังจะเห็นได้จากการแต่งตำรา 3 เล่ม เพื่อสร้างผลงานวิชาการจากการวิจัยและประสบการณ์ในการปฏิบัติจริงอย่างได้ผลเพื่อเสริมสร้างความรู้สู่สังคม
นอกจากนี้ยังเป็นผู้บุกเบิกงานและบริหารงานหลักสูตรการเรียนการสอน นับตั้งแต่หลักสูตรปริญญาโทที่เปิดสอนครั้งแรกในปี 2546 ที่มีผู้เรียนมากถึง 427 คน ต่อมาก็ร่วมพัฒนาหลักสูตรปริญญาเอก ร่วมบริหารมาถึง 8 รุ่น จากนั้นจึงหันมาพัฒนาหลักสูตรใหม่อีก ในแขนงนวัตกรรมการสื่อสารทางการเมืองและการปกครองท้องถิ่น เปิดสอนครั้งแรกในปี 2560 มีผู้เรียน 32 คน และยังพัฒนาหลักสูตรปิญญาเอก ในแขนงนวัตกรรมการสื่อสารทางการเมืองและการปกครองท้องถิ่น ซึ่งมีแผนจะเปิดสอนในปี 2562 เพื่อมุ่งหวังสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับผู้เรียน
ความมีวิริยะ รองศาสตราจารย์ดร.วิทยาธร มีความขยันหมั่นประกอบการงานด้วยความพยายามเข้มแข็ง อดทน เอาธุระไม่ท้อถอยไม่ว่าจะเป็นงานวิชาการ ได้แก่ การเขียนหน่วยชุดวิชา ทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก สามารถดำเนินงานได้ไม่ล่าช้า การพัฒนาหลักสูตรนิเทศศาสตรมหาบัณฑิต งานการเรียนการสอนและการฝึกปฏิบัติเสริมทักษะงานวิจัยเพื่อใช้ในการประกันคุณภาพของสาขาวิชา การจัดบริการวิชาการแก่สังคม คณะทำงานต่าง ๆ ในสาขาวิชา การเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในสถาบันการศึกษาอื่น ทางด้านงานบริหารบุคคล งานสภาวิชาการ ได้พยายามพัฒนา วางระบบ แก้ไข ติดตามเอาใจใส่ จนงานนั้นจะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี รวมทั้งรองศาสตราจารย์ ดร. วิทยาธร ท่อแก้วมีงานวิจัยจากงบประมาณจากหน่วยงานภายนอกร้องขอ ที่ดำเนินการในนามของมหาวิทยาลัยปีละหลายโครงการ รวมเงินทุนวิจัยที่อุดหนุนที่ผ่านมารวมไม่น้อยกว่า 450 ล้านบาท รวมทั้งเข้าไปมีส่วนพัฒนาประเทศในแง่มุมวิชาการในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ช่วยราชการสำนักผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในกิจการทหารพัฒนา กรรมการสภาวิชาการมหาวิทยาลัยนครพนม กรรมการตรวจสอบและประเมินผลมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษร์ธานี ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการบริษัท อสมท จำกัด มหาชน ประธานคณะกรรมการตรวจสอบบริษัท อสมท จำกัด มหาชน ที่ปรึกษากรรมการในคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง กรรมการในคณะกรรมาธิการกิจกรรมวิทยุกระจายเสียง โทรทัศน์ และโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร กรรมาธิการพิจารณากฎหมายการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฯลฯ ได้รับมอบหมายจากสำนักนายกรัฐมนตรีให้ยกร่างนโยบายรัฐบาลส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิรูปสื่อ (ปี 2545) ได้วิจัยและพัฒนา (1)รูปแบบการสื่อสารองค์กรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประเภทเทศบาล นำไปไปประยุกต์ใช้ในงานขององค์กรเทศบาล (2) กระบวนการบริการประชาชนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประเภทเทศบาล นำไปประยุกต์ใช้ในงานขององค์กรเทศบาล (3) รูปแบบการฝึกอบรมผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการสื่อสารนโยบายและผลการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (4) การพัฒนาศักยภาพการสื่อสารการพูดในที่ชุมชน สำหรับผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจัดการฝึกอบรมบริการแก่สังคมมาแล้วจำนวน 15 รุ่น นอกจากนี้ยังมีความพยายามในการทำงานที่มุ่งสร้างสิ่งใหม่ ๆ ในงานคามหน้าที่ คือ ริเริ่ม พัฒนา บริหารจัดการหลักสูตรใหม่ ซึ่งนับเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ขององค์กร และเป็นประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตร ระดับปริญญาโท แขนงนวัตกรรมการสื่อสารทางการเมืองและการปกครองท้องถิ่น
ความมีจิตตะ นักวิชาการผู้มากด้วยความสามารถผู้นี้ เป็นบุคคลที่นับได้ว่ามีความใจจดจ่ออยู่กับงาน ในงานวิชาการ งานบริหารได้ดำเนินการแล้วเสร็จทันเวลาอย่างมีคุณภาพ จากผลการดำเนินงานในเชิงบริหารด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทีมในการปฏิบัติงานตามพันธกิจ ทำให้รองศาสตราจารย์ ดร. วิทยาธร ท่อแก้ว ได้รับรางวัลบุคคลต้นแบบ Talented People ด้านการวิจัย จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ปี 2556
วิมังสา คือ การหมั่นใช้ปัญญาไตร่ตรองหาเหตุผล รองศาสตราจารย์ดร.วิทยาธรเป็นผู้ที่มีการวางแผนคิดค้นวิธีแก้ไขปรับปรุงงาน การเรียนการสอนโดยได้ออกแบบนวัตกรรมสื่อการศึกษาเป็นสื่อการเรียนการสอนผ่านสมาร์ทดีไวซ์ ชื่อ “INNOCOM STOU. Learn Together”โดยจัดทำเป็นโมบายแอพพลิคเคชั่นใช้การเรียนการสอนระดับปริญญาโทแขนงนวัตกรรมการสื่อสารทางการเมืองและการปกครองท้องถิ่นออกแบบและจัดการเนื้อหาด้วยตนเอง โดยรองศาสตราจารย์ ดร. วิทยาธร ท่อแก้ว เรียนรู้จากความสนใจส่วนบุคคลในการนำนวัตกรรมการสื่อสารมาใช้ในการพัฒนาองค์กร นับเป็นโมบายแอพพลิคเคชั่นใช้การเรียนการสอนระดับปริญญาโทแห่งแรกของมหาวิทยาลัย และแห่งแรกของประเทศไทย และยังคงพัฒนาต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการสื่อสารองค์กร (ประชาสัมพันธ์) ให้กับองค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
การปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมรองศาสตราจารย์ ดร. วิทยาธร ท่อแก้ว ได้ปฏิบัติงานในฐานะเป็นข้าราชการที่ดี กล่าวคือ มีความซื่อสัตย์สุจริต เที่ยงตรงในการดำเนินงาน มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ กล้าแสดงความคิดเห็นหรือทักท้วงในสิ่งที่เห็นว่าไม่เหมาะสม รักความเป็นธรรม มีจิตสำนึกที่ดีและรับผิดชอบต่อหน้าที่ด้วยการทำงานในหน้าที่ด้วยความรวดเร็วและเต็มกำลัง อุทิศเวลาและทุนทรัพย์ให้กับการพัฒนางานในหน้าที่และงานของมหาวิทยาลัย ยึดถือประโยชน์ของราชการเป็นหลัก มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงานเป็นสำคัญ รักษามาตรฐานของงานทางวิชาการ
การมีจิตสาธารณะรองศาสตราจารย์ ดร. วิทยาธร ท่อแก้ว เป็นผู้มีความพร้อม เต็มใจ เสียสละ และร่วมมือร่วมใจในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม พร้อมที่จะดำเนินการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาทั้งงานของสาขาวิชา และงานทางสังคม รวมทั้งได้บริจาคเงินให้แก่โรงพยาบาล มูลนิธิ ผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะสถาบันการศึกษาต่าง ๆ โดยให้ทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนที่ยากจน ขาดโอกาสในพื้นที่ห่างไกลและกันดาร ได้ชักชวนเพื่อนร่วมงานและผู้ใกล้ชิดให้มีส่วนร่วมในการทำประโยชน์แก่สังคม ได้ปลูกฝังการมีจิตสาธารณะ และจิตสำนึก ให้กับบุตร และศิษย์ผ่านในการเรียนการสอน การอบรม กิจกรรมการฝึกอบรมปฏิบัติเสริมทักษะ และกิจกรรมบริการวิชาการแก่สังคมอย่างสม่ำเสมอ
บนเส้นทางชีวิตรองศาสตราจารย์ ดร. วิทยาธร ท่อแก้วมีคติพจน์ที่ยึดถือในการปฏิบัติงาน สร้างสรรค์งานอย่างต่อเนื่อง ทุ่มเทเสียสละ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญและปณิธานความดีที่แน่วแน่ จงดูแลตนเองด้วยปัญญา จงดูแลผู้อื่นด้วยหัวใจ จงใช้ปัญญาและหัวใจดูแลครอบครัว ชุมชุนและประเทศชาติ และนี้คือเรื่องราวบางเสี้ยวตอนของ ข้าราชการต้นแบบที่ใช้ชีวิตได้อย่างงดงาม
