เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ม.ค. 63 การแถลงข่าวของ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. แจ้งว่าจากการตรวจสอบ พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุพบว่า คนร้ายมีความเชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธในการเข้าก่อเหตุ ซึ่งมีไม่กี่หน่วยงานที่มีความชำนาญด้านนี้ อาทิ หน่วยรบพิเศษในหน่วยงานราชการ หรือ เอกชน ที่อยู่ในหน่วยงานเฉพาะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นดีเอ็นเอ เพื่อไปเทียบเคียงให้กับอัตลักษณ์ของคนร้าย รวมถึงลักษณะท่าทาง การแต่งตัวของคนร้าย รวมถึงชุดที่สวมใส่ นอกจากนี้สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถระบุรถและยี่ห้อได้อย่างชัดเจนแล้วหลังจากนี้จะทำการไล่ดูกล้องวงจรปิดย้อนหลังในห้างสรรพสินค้า เพราะเชื่อได้ว่าคนร้ายได้มีการมาดูลาดราวไว้ก่อนตัดสินใจลงมือก่อเหตุอย่างแน่นอน
ในเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้เดินด้วยเฮลิคอปเตอร์ มาที่สถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการาตำรวจท่องเที่ยว1 จังหวัดลพบุรี เพื่อบัญชาการล่าโจรชิงทอง และสอบถามความคืบหน้าและ ร่วมประชุมหารือ กับนายตำรวจระดับสูง รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยหลบกองทัพผู้สื่อข่าวที่ปักหลักรอเก้อกันอยู่ที่ห้างโรบินสันสาขาลพบุรี สถานที่เกิดเหตุ และที่ สภ.เมือง ลพบุรี
โดยเมื่อช่วงบ่ายพล.ต.ท.อำพล ผบช.ภ.1 พล.ต.ต. ณัฐพล ศุภระศร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี และนายตำรวจอีกหลายนาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่หน้า สภ.เมือง ลพบุรี ถึงกรณี เส้นทางหลบหนีของคนร้ายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเส้นทางอย่างละเอียด เบื้องต้นคนร้ายได้หลบหนีไปทางเส้นทางสายบายพาส ลพบุรี-สระบุรี ไปตามเส้นทางแยกโพธิ์เก้าต้น อ.เมือง ลพบุรี มุ่งหน้า อ.ท่าวุ้ง ซึ่งอาจจะใช้เส้นทางสิงห์บุรี-ลพบุรี หรือไม่นั้นกำลังให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ แต่มีช่วงที่ขาดหายไป เนื่องจากกล้องวงจรปิดในเส้นทางมีน้อยมาก หากประชาชนท่านใดมีกล้องหน้ารถที่บันทึกภาพคนร้ายได้ขอให้นำหลักฐานช่วงที่บันทึกยานพาหนะและคนร้ายแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน ซึ่งยังคงมีรางวัลนำจับกว่า 3 แสนบาทแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- ชายวัย 50 ปี เปลี่ยนถังแก๊สเอง จุดเตาทำกับข้าวไฟพรึ่บคลอกเจ็บหนัก
- พรรคประชาชนเปิดตัว นายแพทย์จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ หรือ หมอมุดสัง ชิง นายก อบจ.สุราษฎร์ ฯ สมัครจันทร์นี้
- ระทึก ไฟไหม้โรงงานผลิตกล่องโฟมใส่อาหารหวิดวอดหมดหลัง
- ผู้กำกับ สภ.บางเสาธง เชิญตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่รถชนกันแล้วมีอ้างรู้จักตำรวจ
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจากนครบาล จากกองปราบปราม จากภาค1 และตำรวจงานสืบสวน ภ.จว.ลพบุรี กว่า 200 นาย กระจายลงพื้นที่รอยต่อจังหวัดลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี และตามเซฟเฮ้าส์ต่างๆ ที่เป็นเส้นทางสุดท้ายที่คนร้ายหลบหนี ซึ่งสื่อมวลชนหากต้องการทราบความคืบหน้าให้ประสานกับ ผบก.ภ.จว.ลพบุรี โดยตรง กับคำถามที่ตอบได้ เนื่องจากรับผู้บังคับบัญชาสั่งการมา โดยเข้าใจว่าสื่อมวลชนต้องการที่จะอยากรู้ (โดยสอบถามตลอดเวลา บางครั้งมันก็ไม่มีอะไรที่จะตอบ) แต่ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ พยายามกันอย่างเต็มความสามารถเพื่อจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้ เชื่อว่าไม่นานก็จะสามารถจับกุมตัวได้อย่างแน่นอน ซึ่งถ้าหากคนร้ายมีการขัดขืนต่อ สู้ก็พร้อมวิสามัญได้ทันที
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: