แบบนี้ก็มีด้วยแม่แท้ๆ เขียนจดหมายยัดมือลูกขับจักรยานยนต์กดกริ่งหน้าสำนักงานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดลพบุรีก่อนขับรถหนีไป ปล่อยลูกน้อยไร้เดียงสาไว้ออย่างน่าเวทนา โดยในข้อความจดหมายที่ฝากถึงเจ้าหน้าที่ อนุญาตยกเด็กหญิงให้กับทางสถานสงเคราะห์ดูแลอย่าถาวร เพราะไม่สามารถดูแลให้ลูกมีอนาคตที่ดีได้เพราะฐานะยากจน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง พ่อแท้ๆ ก็ไม่รับว่าเป็นลูก อีกทั้งสามีใหม่ก็ปฎิเสธไม่ขอเป็นภาระเลี้ยงดูเช่นกัน
เหตุการณ์แม่ทิ้งลูกเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของ วันที่ 12 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดลพบุรี หมู่ที่ 3 ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง ลพบุรี ได้นำเด็กหญิงอายุประมาณ 3 ขวบเศษ เดินทางไปยัง สภ.เมือง ลพบุรี เพื่อพบกับพนักงานสอบสวน โดยมีเด็กหญิงวัยประมาณ 3 ขวบเศษ เนื้อตัวมอมแมม มีเสื้อผ้า 1-2 ชุด อยู่ในถุงพาสติก ซึ่งเด็กหญิงคนดังกล่าวได้กอดตุ๊กตาไว้ตลอดเวลา ซึ่งเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวให้การว่า เมื่อช่วงสายได้มี ผู้หญิง ขับขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกกันน็อกพร้อมกับเด็กหญิงคนดังกล่าว มาจอดที่หน้าสำนักงาน เดินมากดออดที่หน้าประตูสำนักงานฯ สังคมสงเคราะห์บ้านเด็กและครอบครัวจังหวัดลพบุรี เมื่อเจ้าหน้าทีเดินมาเปิดประตู ซึ่งเป็นประตูปิดเปิดแบบอัตโนมัติ ใช้รีโมททำการเปิด ก็เห็นแต่เด็กหญิงหิ้วถุงสัมภาระ ตุ๊กตา และจดหมายที่เขียนยัดใส่มือเด็กมา โดยผู้หญิงที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาส่งได้ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดอ่านข้อความจดหมายที่เขียนถึงเจ้าหน้าที่โดยตรงระบุว่า “ ดิฉันขออนุญาตยกเด็กหญิงกฤษณา โฉมประเสริฐ ให้กับทางสถานสงเคราะห์ดูแลอย่างถาวร เพราะดิฉันไม่สามารถดูแลให้เด็กคนนี้มีอนาคตที่ดีได้ เนื่องจากมีฐานะยากจน ดิฉันมีครอบครัวใหม่มีที่อยู่ไม่เป็นแหล่ง ส่วนพ่อใหม่ของน้องออมสินก็ปฏิเสธไม่รับเลี้ยงไม่ยอมรับน้องเป็นลูก ขอโทษที่ทำแบบนี้ แต่ดิฉันคิดว่ามันเป็นหนสุดทางสุดท้ายที่ดีที่สุด (แม่รักลูกนะแต่แม่มีความจำเป็น)
ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน โดยในเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ทำการตรวจสภาพร่างกายภายนอกของน้องพบว่า มีรอยเขียวช้ำตามลำตัวหลายแห่ง คล้ายถูกทำร้าย ทุบตี จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ฯ นำเด็กหญิงคนดังกล่าวส่ง รพ.พระนารายณ์มหาราช เพื่อให้แพทย์ตรวจเช็คร่างกาย และรอยเขียวช้ำว่าเกิดจากสาเหตุใด และจะได้สืบสวนติดตามแม่ทิ้งลูกได้ลงคอรายนี้มาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
