กระหึ่มกระแสโลกออนไลน์ หลวงพี่มือปราบยาเสพติด
วันที่ 3 ส.ค. 61 สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี และเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดจังหวัดลพบุรี ได้เพิ่มมาตรการเข้มงวด กวดขัน แก้ไขปัญหาพระสามเณรเกี่ยวข้องกับ ยาเสพติด ซึ่งระบาดหนักไปทั่วทุกแห่งหน โดยเฉพาะพระบวชใหม่ที่เคยเสพยาเสพติดมาก่อน ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจในวัดต่างๆ เน้นวัดที่มีข้อมูล เบาะแสการมั่วสุมเสพยาเสพติดทุกชนิด โดยจะมีการตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ พระสงฆ์สามเณรทุกองค์ที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวพระด้วยกันเอง หน.ชุมชน ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้าน มองว่าปัญหายาเสพติดกับพระและสามเณรนั้นเป็นปัญหาใหญ่ ที่จะต้องช่วยกันอย่างจริงจัง ต้องมีเจ้าหน้าที่ในด้านต่างๆ ในการตรวจสอบ เนื่องจากการดำเนินการคดีกับพระสงฆ์ในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพ ติดนั้นมีความละเอียดอ่อนของกระบวนการ ต้องมีความรอบคอบ
สำหรับการแจ้งเบาะแสยาเสพติด เพื่อลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ทีได้รับความเดือดร้อนจากปัญหายาเสพติด เช่นมีการซื้อ การขายยาเสพติด การมั่วสุมเสพยา เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือพระ และสามเณรมีพัวพันกับยาเสพติด ประชาชนที่ต้องการแจ้งเบาะแสมีหลายช่องทางเช่นผู้นำท้องถิ่น อำเภอ จังหวัด และตำรวจในพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่จะแจ้งเบาะแสให้กับ สำนักงาน ป.ป.ส.โดยตรง เนื่องจากไม่ต้องเสี่ยงกับความเดือดร้อนที่จะตามมาภายหลัง หรือบางครั้งก็ไม่ทันต่อเหตุการณ์
สำหรับจังหวัดลพบุรี จากกรณีซึ่งมีกระแสข่าวในโลกออนไลน์ใน วันที่ 2 ส.ค. 61 ที่ผ่านมาว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจปลอมเป็นพระภิกษุ เข้าไปจับกุมพระเสพยาเสพติดได้ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.ณัชภูม วรรณวิไล ผกก.สภ.ท่าหิน ต.ท่าหิน อ.เมือง ลพบุรี ถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้ข้อมูลว่ามีผู้ที่นำภาพลงในโซเชียลอ้างว่าตำรวจ สภ.ท่าหิน ที่แต่งกายเป็นพระภิกษุปลอมตัวไปจับกุมยาเสพติดนั้น ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จริงเป็นพระภิกษุ ชื่อพระครูปลัดพิเชษฐ์ ชยธมโม อายุ 49 ปี ตำแหน่งเลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็น (พระวินยาธิการ) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า”ตำรวจพระ” ซึ่งเป็นพระภิกษุที่ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าคณะจังหวัด หรือเจ้าคณะผู้ปกครอง ให้เป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุนการปกครองขอ งเจ้าอาวาส และเจ้าคณะปกครองเพื่อความเรียบร้อยถูกต้อง และความดีงามตามหลักธรรม วินัย กฎหมาย มีหน้าที่ตรวจตรา แนะนำ ตักเตือน ชี้แจงระเบียบปฏิบัติแก่พระภิกษุสงฆ์ สามเณรในจังหวัด หรือเข้ามาในจังหวัด ที่ประพฤติตัวไม่เรียบร้อย และถ้าหากไม่ปฏิบัติตามหรือพบว่าทีการกระทำความผิดก็มีอำนาจจับกุมตัวส่งเจ้าคณะผู้รับผิดชอบ หรือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ที่วัดใหญ่กลางเมืองลพบุรี เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าวกับพระครูปลัดพิเชษฐ์ ชยธัมโม ซึ่งบวชมาแล้ว 27 พรรษา ถึงกระแสในโลกโซเชียลจากกรณีมีการถ่ายภาพคู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.ท่าหิน และผู้ต้องหา ว่าเหตุการณ์เป็นเช่นไร ได้รับคำตอบจากหลวงพี่ว่า ตนเองนอกจากจะเป็นเลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอแล้ว ยังทำหน้าที่เป็น กต.ตร.สภ.ท่าหิน ทำงานด้านป้องกันปราบปรามยาเสพติดในส่วนของคณะสงฆ์ สอดส่องดูแลพฤตการณ์ของพระภิกษุ สามเณร ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพยาเสพติดทุกชนิด มี ตรวจสอบ ดูแลพระภิกษุที่ทำผิดพระธรรมวินัย และตรวจสอบพระภิกษุสามเณรที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวของกับยาเสพติด และถวายความรู้เรื่องพิษภัยของยาเสพติด แนะนำเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ช่วยตรวจสอบผู้ที่จะเข้ามาบวช หรือบวชมาแล้วว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่
ตนเองทำงานด้านนี้มานานกว่า 10 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาของการทำงานได้ประสานผู้นำท้องถิ่น ฝ่ายปกครองป้องกัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุม และแจ้งเบาะแสในคดีต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่ตนเองเกลียดที่สุด ซึ่งภาพที่ลงในโลกโซเชียลเป็นภาพที่ตนเองได้จับกุมพระภิกษุที่มั่วสุมเสพยาเสพติดได้ที่วัดแห่งหนึ่งกลางเมืองลพบุรี นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าหิน อ.เมือง ลพบุรี โดยเจ้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่คุ้นเคยได้ขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก แต่มีบางภาพหลุดออกมาในโลกโซเชียลจึงมีกระแสว่าตำรวจปลอมเป็นพระ ซึ่งใครก็ตามที่แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ถือว่ามีความผิด ผู้สื่อข่าวถามว่ามีผู้ตั้งสมญานามให้หลวงพี่ว่า”มือปราบอมิตพุทธ” “หลวงพี่มือปราบ” “หน้าที่หลักเป็นพระ หน้าที่รองเป็นพลเมืองดี” ท่านคิดเห็นเช่นไร หลวงพี่ตอบว่าเราทำดีไม่ต้องมีใครเห็นเช่นการปิดทองหลังพระ อาตมาเป็นพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งที่ต้องการเห็นต้องการให้ยาเสพติดทุกชนิดหมดสิ้นไปจากเมืองไทย
