เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 10 ส.ค.61 พ.ต.ท.พณวรรณ มาตราช สารวัตรเวร สภ.เพนียด อ.โคกสำโรง ลพบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เพนียด ว่ามีผู้ผูกคอตายที่บ้านทุ่งทอง หมู่ที่ 6 ต.สะแกราบ อ.โคกสำโรง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมทั้งได้ประสานแพทย์เวร รพ.โคกสำโรง สมาคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์ร่วมเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว บนบ้านพยศพร่างนายชมพู บุญอาจ อายุ 46 ปี สภาพศพสวมกางเกงขาสั้นลานดอกเพียงตัวเดียว โดยผู้ตายใช้ผ้าขาวม้าฉีกเป็นเส้น มัดโยงกับขื่อกลางบ้าน ผูกคอตัวเองห้อยอยู่กลางบ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงได้นำร่างลงมาเพื่อทำการชันสูตร ซึ่งจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุโดยละเอียดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และการถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจ ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 ชั่วโมง
จากการสอบถามญาติของผู้ตายให้การว่า ผู้ตายเป็นพี่ชายคนโตในบ้านหลังนี้ อดีตเคยเป็นเสาหลักของครอบครัว มีอาชีพการงานที่มั่นคง โดยเมื่อประมาณ ปี 2553 ภรรยาซึ่งเคยอยู่กินกันมาได้หนีไป ทิ้งให้นายชมพู ต้องกลายเป็นคนเหม่อลอย ติดสุรา จนต้องลาออกจากงาน ซึ่งเมื่อไม่นานแม่กลับต้องมาป่วยหนัก เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยที่นายชมพูต้องคิดมากเนื่องจาก ไม่สามารถที่จะช่วยเหลืออะไรแม่ได้สักอย่าง แม้แต่เงินรักษาก็ไม่มี หมดหนทาง จะไปหยิบยืมใครก็ลำบาก เพราะตนเองไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง เมื่อวานญาติๆ จากต่างจังหวัดได้มาเยี่ยมแม่ โดยให้เงินไว้กับตนเองก้อนหนึ่งเพื่อไว้ใช้จ่ายและดูแลรักษาแม่
ซึ่งเมื่อช่วงเช้านายชมพูได้บ่นกับญาติว่าสงสารแม่เหลือเกิน ในวันแม่ทุกปีเคยได้กินข้าวด้วยกันกับแม่ ได้นอนกอดแม่ก็รู้สึกมีความอบอุ่น แต่ปีนี้แม่เข้าโรงพยาบาลโดยที่ตนเองช่วยอะไรไม่ได้ แถมต้องมาเป็นภาระให้กับคนอื่น โดยที่ญาติๆ ก็ได้แต่คอยปลอบใจ และให้กำลังใจ ให้ต่อสู้กับชีวิต และให้ทำตัวเสียใหม่ยังไม่สายเกินไป ดูแลรักษาแม่ไว้ให้ได้นานที่สุด โดยที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมาคิดฆ่าตัวตายแบบนี้ ก่อนพบศพเวลาประมาณ 16.30 น. ได้ร้องเรียกให้นายชมพูมากินข้าว แต่เรียกเท่าไรก็ไม่ขานรับจึงได้เดินขึ้นไปดูบนบ้านพบว่านายชมพูผูกคอตายแล้ว ทั้งนี้สารวัตรเวรได้นำร่างผู็ตายส่งพิสูจน์ที่ รพ.โคกสำโรงอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบศพให้กับญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
