วันที่ 13 ส.ค. 61 ร.ต.อ.บัญชา ชอบธรรม รอง สว.(สอบสวน) สภ.พัฒนานิคม อ.พัฒนานิคม ลพบุรีได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.พัฒนานิคมว่า ได้เกิดเหตุรถยนต์กระบะชนกันที่ ่ถนนสายพัฒนานิคม – หนองบัว สี่แยกซอย 26 ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม ลพบุรี ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ติดคาซากรถอยู่ จึงได้ประสานแพทย์เวร รพ.พัฒนานิคม นคร88 อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดพัฒนานิคม พร้อมอุปกรณ์การตัดถ่างรุดเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนสองเลน พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ นิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน บล 4267 ลพบุรี ซึ่งเป็นรถบรรทุกนมไวตามิลค์ ในสภาพด้านหน้าพังยับเยิน ภายในตอนหน้าของรถพบร่างนายคงคา ศรีวงนาค อายุ 23 ปี ชาว อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร คนขับ และนายบัณฑิต บุญเสริม อายุ 27 ปี ชาว อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บร้องขอความช่วยเหลือซึ่งทั้งคู่ติดคาซากตอนหน้าของรถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้ช่วยกันนำร่างออกมาจากซากรถ ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้นก่อนนำตัว ส่ง รพ. ใกล้กันเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน บล 873 ลพบุรี ซึ่งเป็นรถบรรทุกวัว ควาย สภาพไม่ต่างกันพังเสียหายยับเยินจากการชน เศษชิ้นส่วนอุปกรณ์รถ สิ่งของภายในรถกระเด็นกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ และมีผู้ติดภายในตอนหน้า จำนวน 3 ราย อาการสาหัส เจ้าหน้าที่ได้เร่งทำการช่วยเหลืออกมาได้ในเวลาต่อมา ทราบชื่อนายภูวดล เผือกพันธ์ อายุ 30ปี คนขับ น.ส.อมรรัตน์ แสนแก้ว อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลฃที่ 35 หมู่ที่ 11 ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม ลพบุรี และนางนงลักษณ์ แสนแก้ว อายุ 50 ปี น.ส.อมรรัตน์ ทั้งคู่เป็นแม่ลูกกัน ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสมากทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ร้อยเวรเจ้าของคดีได้นำร่างผู้ทีเสียชีวิตทั้ง 2 รายส่งพิรสูจน์ รพ.อีกครั้ง เพื่อที่จะประสานญาติติดต่อรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา
จากการสอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่ารถยนต์กระบะบรรทุกนมไวตามิลค์ได้ขับมาจากเส้นทางสาย 26 เพื่อข้ามทางตัดไปสายโท โดยมีรถยนต์กระบะที่มีนายภูวดล น.ส.อมรรัตน์ และนางนงลักษณ์ มาทางสาย 27 ซึ่งเป็นทางตรงขับมาด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงจุดที่เกิดเหตุสี่แยกที่ไม่มีสัญญานไฟจราจร และบริเวณสี่แยกดังกล่าวมีป่าอ้อยรกทึบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน ได้พุ่งชนด้านซ้ายของรถกระบะอีซูซุอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุให้มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเหตุการณ์การเกิดอุบัติเหตุแยกวัดใจนี้สร้างความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินมานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งชาวบ้านย่านนี้ขนานว่าสี่แยกวัดใจ สี่แยกร้อยศพ สี่แยกเหลืออด ซึ่งในแต่ละเดือน แต่ละปีมีชาวบ้านที่ต้องสังเวยด้วยชีวิตแล้วชีวิตเล่า โดยที่ไม่มีหน่าวยงานรับผิดชอบใดเลยเข้ามาดำเนินการแก้ไขให้กับชาวบ้าน
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: