เกิดเหตุเพลิงไหม้กลางชุมชนแออัดในเขตอำเภอโคกสำโรงทำให้บ้านเรือนถูกไฟไหม้จำนวน 4 หลังคาเรือน ค่าเสียหายในเบื้องต้นกว่า 1 ล้านบาท ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบถึงสาเหตุในครั้งนี้
วันที่ 10 เม.ย.63 พ.ต.ท.ณัฐพล พงษ์ษานุวัฒน์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.โคกสำโรง ลพบุรี ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนซอยกำแพงประชาราม ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 68 ตำบลโคกสำโรง หลังจากที่ได้รับแจ้ง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งได้ประสานขอรับการสนับสนุนรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลโคกสำโรง และพื้นที่ใกล้เคียง ไห้รีบเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุเนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ และอยู่ในชุมชนแออัด มีบ้านเรือนราษฎรจำนวนมากอาศัยรวมกันอยู่เป็นจำนวนมาก
ข่าวน่าสนใจ:
- ขอนแก่น พร้อมจัด " Khonkaen Countdown 2025 Rise Beyond" ขอนแก่น พุ่งทะยานสู่อนาคต อย่างยิ่งใหญ่ คาดเงินสะพัด 50 ล้านบาท
- ชวน” คลี่ปมขัดแย้งแก้พ.ร.บ.กลาโหม นักการเมือง-ทหาร ไม่ไวใจกันเอง สลับกันแก้หวังกระชับอำนาจ อ้างตัดไฟรปห.แค่ปลายเหตุ ต้นเหตุเพราะนักการเมืองโกง!
- สุราษฎร์ ฯ อ่วม ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน จนท.เร่งช่วยเหลือประกาศภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และสามคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์ ได้ช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปติดบ้านข้างเคียง จนสามมารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ ไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง ซึ่งได้ใช้เวลาในการควบคุมเพลิงนานเกือบ 1 ชั่วโมง จากการตรวจสอบและสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าได้เกิดเพลิงไหม้จากบ้านเลขที่ 68 ซอยประชาราม ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านร้างไม่มีผู้อาศัยอยู่ ซึ่งเจ้าของบ้านชื่อนายธวัชชัย จานุกูล อายุ 49 ปี ซึ่งไม่ได้อาศัยอยู่มานานหลายปีแล้ว จากนั้นเพลิงได้ไหม้ลุกลามไปติดบ้าน เลขที่ 72 และเลขที่ 72/1 จำนวน 2 หลังติดกัน อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีกระแสลมกรรโชกมาช่วงไฟไหม้ ซึ่งบ้านทั้ง 4 หลังที่ถูกไฟไหม้นั้นเป็นเครือญาติกันทั้งหมด
น.ส.ศิริรัตน์ ชัยโสภา อายุ 18 ปี บ้านหลังที่ 2 ที่ถูกไฟไหม้ เล่าว่าช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงคนร้องตะโกนไฟไหม้ จึงได้วิ่งออกมากจากบ้าน พร้อมกับเครือญาติ และเพื่อนบ้าน โดยทั้งหมดที่พักอาศัยอยู่ในบ้านต่างวิ่งหนีออกจากบ้านเอาตัวรอด ไม่สามารถนำของมีค่าออกมาได้ แม้แต่ชิ้นเดียว ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งทำการควบคุมเพลิงอย่างเต็มความสามารถแต่เป็นชุมชนแออัดทำให้การควบคุมเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่วิทยาการมาทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต โดยในเบื้องต้นค่าเสียหายประมาณ 1.5 ล้านบาท
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: