วันที่ 10 ก.ย. 61 ที่ หน้าห้องผู้ป่วยวิกฤติ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ น.ส.วรรณิสา หรือฝ้าย บุญตา อายุ 24 ปี ภรรยาสาวพลทหารคชา พะชะ อายุ 22 ปี ที่ถูกพลทหารรุ่นพี่สังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรีรุมซ้อมได้รับบาดเจ็บสาหัส ตั้งแต่กลางดึกวันที่ 21 ส.ค. 61 ที่ผ่านมา เพื่อสอบถามอาการล่าสุดของสามีที่ยังนอนไม่มีสติ ในห้องไอซียู ของ รพ.อานันทมหิดล ถึง 20 วันแล้ว ซึ่งอาการโดยรวมที่มีทั้งสมองบวม ปอดติดเชื้อ ยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งแพทย์ออกมาระบุเป็นระยะว่าอาการโดยรวมยังคงอยู่ในขั้นวิกฤติ ต้องดูแลรักษาและเพิ่มปริมาณของยาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดแพทย์ออกมาระบุว่าวันนี้พลคชามีอาการภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดขึ้นมาอีก ทำให้อาการทรุดลงมากกว่าเดิม ญาติทำใจแต่ก็ยังหวังปาฏิหาริย์ให้คชา หรือเข้มลืมตาขึ้นมามองครอบครัวที่ยังคงปักหลักนอนเฝ้าไม่ห่าง ในขณะที่ลูกคนที่สองที่อยู่ในครรภ์ของน้องฝ้ายเริ่มดิ้น พ่อและพี่สาวต้องเร่งปิดงานที่ค้างคา เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายแต่ละวัน
ด้าน น.ส.รุ่งฤดี สิหะวงษ์ แม่ของเข้ม ซึ่งก็ยังคงปักหลักเฝ้าดูอาการของลูกชาย พร้อมเลี้ยงหลานสาวคนโต และดูแลยายที่อายุมากถึง 72 ปีที่หน้าห้องวิกฤติ รพ.อานันทมหิดล กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ลพบุรี ได้นำหนังสือแจ้งความคืบหน้าการสอบสวนคดีอาญามามอบให้ โดยหนังสือฉบับดังกล่าวลงวันที่ 3 ก.ย. 61 ถึง คุณวรรณิสา บุญตา อยู่บ้านเลขที่ 92/9 หมู่ที่ 10 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เรื่องการแจ้งความร้องทุกข์ หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ในความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ตามคดีอาญาเลขที่ 922/2561 ป.จ.ว.ข้อ 3 ลงวันที่ 25 ส.ค. 61 ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้วนั้น
ขอชี้แจงความคืบหน้าผลการดำเนินการของพนักงานสอบสวนให้ทราบดังนี้ พนักงานสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วจึงสรุปสำนวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้กระทำความผิด ในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยมีการส่งสำนวนเสนออัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 13 ลงชื่อ พ.ต.ท.ยุทธศิลป์ คัตตะพันธ์ รอง ผกก.(สอบสวน) ปฏิบัติราชการแทน ผกก.สภ.เมือง ลพบุรี โดยผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำ มทบ.13
ในส่วนของการช่วยเหลือจากกองทัพ สำหรับเงินเยียวยาครอบครัวในเรื่องค่าใช้จ่ายของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ที่ทางญาติได้ส่งเอกสารไปทั้งหมดแล้ว เงินที่จะได้รับสำหรับเยียวยาครอบครัวในเบื้องต้นประมาณ 30,000 บาท แม่และภรรยาของพลคชา กล่าวว่า ยังไม่ได้รับจากใคร และยังไม่มีใครมาให้ข้อมูลถึงเรื่องเงินดังกล่าว โดยทุกวันนี้ตนเองและครอบครัวรอปาฏิหาริย์ ออกเดินสายทำบุญทุกที่ ขอขมาลาโทษให้กับเข้มที่ล่วงเกิน หวังเพียงให้ลูกรอดถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงความหวังเล็กๆ ก็ตาม
