เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. 63 ร.ต.อ.รัตนตรัย ผ่องทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เพนียด อ.โคกสำโรง ลพบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกัน ที่หมู่ที่ 8 ต.ดงมะรุม ในทีเกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย จึงได้รายงาน พ.ต.อ.ภูการวิก โชติกเสถียร ผกก.สภ.เพนียดทราบ พร้อมทั้งได้ประสานแพทย์เวร รพ.สระโบสถ์ และสมาคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์ รุดเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นลานอเนกประสงค์ของหมู่บ้าน พบมีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างออกมามุงดู จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจาได้เข้าตรวจพื้นที่เกิดเหตุเป็นแคร่ไม้ยกสูง พบรอยเลือดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ ที่พื้นพบกล่องใส่กระสุนปืนตกอยู่ มีกระสุนปืนขนาด.38 จำนวน 14 นัด และซองหนังอาวุธปืนตกอยู่ ส่วนอาวุธปืนนายพวงมณี ผู้ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยยึดไว้ และนำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าเป็นอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมปลอกกระสุนปืนในรังเพลิงอีก จำนวน 6 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บรวบรวมไว้เพื่อเป็นหลักฐาน โดยทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 รายญาติๆ ได้นำตัวส่ง รพ.สระโบสถ์ ไปก่อนหน้าแล้ว ในจำนวน 4 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 2 ราย ทราบชื่อนายทองดี อุตบุญ อายุ 62 ปี นายสามารถ บัววาด อายุ 60 ปี นายพวงมณี พรมมา อายุ 65 ปี และนายเฉลิมพล สวัสดิ์สลุง อายุ 43 ปี
น.ส.ศิริพร อุตบุญ อายุ 32 ปี ผู้ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เป็นบุตรสาวของนายทองดี และเป็นภรรยาของนายเฉลิมพล เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตั้งแต่เช้า นายเฉลิมพล สามีได้เดินทางมาหาตนเองที่บ้าน โดยมาขอคืนดี จากที่มีเรื่องบาดหมาง ทะเลาะกัน โดยตนเองได้กลับบ้านมาอยู่กับพ่อได้ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว โดยที่ไม่ได้ติดต่อกัน จู่ๆ เมื่อเช้านายเฉลิมพลขับรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน กต-7485 ลพบุรี มาหาที่บ้านท่าทีเมาสุรามา ได้คุยกับพ่อและญาติ เพื่อที่จะของคืนดีกับตนเอง และจะขอนำตัวตนเองกลับไปอยู่ด้วยกันที่ อ.โคกสลุง แต่พ่อไม่ยอม ทำให้นายเฉลิมพลออกอาการหงุดหงิด และพูดว่าเดี๋ยวเจอกัน ก่อนขับรถหายไป
จนเมื่อเวลาประมาณ 19.45 น. นายเฉลิมพล ได้ขับรถยนต์กระบะคันเดิมมาจอดที่ลานอเนกประประสงค์ของหมู่บ้าน ไม่พูดพล่ามทำเพลง เดินรี่เข้าไปหาพ่อสาดกระสุนจำนวน 6 นัด จนหมดโม่ ลุงพวงมณี ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ และถูกยิงจำนวน 1 นัด กระสุนแฉลบบริเวณหน้าอกเฉียดตาย ได้เข้าแย่งปืน กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับนายเฉลิมพล หัวนายเฉลิมพลไปกระแทกกับพื้นแตกได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่นายเฉลิมพลจะวิ่งไปที่รถเพื่อบรรจุกระสุนเข้ารังเพลิก แต่ชาวบ้านช่วยกันจับตัวเอาไว้ได้ก่อน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้นายทองดีซึ่งถูกยิงเข้าที่บริเวณ สะบักขวา แขนขวา และที่เอว จำนวน 3 นัด และนายสามารถถูกคมกระสุนยิงเข้าที่ท้อง จำนวน 2 นัด ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสมากแพทย์ได้พยายามยื้อชีวิตแต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนายพวงมณี ถูกยิงกระสุนแฉลบเฉียดหน้าอก ได้รับบาดเจ็บไม่มากแพทย์ให้กลับบ้านได้ ส่วนนายเฉลิมพล เขยปืนโหด แพทย์ได้ส่งตัวรักษาที่ รพ.บ้านหมี่ ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าว คาดว่าเกิดจากความโกรธแค้นพ่อตาและญาติที่ขัดขวางไม่ให้เมียที่ง้อขอคืนดีไปอยู่กับตน จึงได้กลับบ้านไปเอาปืนของพ่อมายิงพ่อตาและญาติเมียจนเสียชีวิตทั้ง 2 ราย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเฉลิมพลไว้เพื่อดำเนินคดี ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายได้นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง
