วันที่ 12 มิ.ย. 63 พ.ต.ท.พณวรรณ มาตราช สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เพนียด อ.โคกสำโรง ลพบุรี ได้รับแจ้งจากพระลูกวัดโชคอำนวยธรรม หมู่ที่ 7 ต.ดงมะรุม อ.โคกสำโรง ลพบุรี ว่ามีพระผูกคอมรณภาพที่กุฏิท้ายวัด จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.โคกสำโรง และสมาคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์
ที่เกิดเหตุเป็นกุฏิข้างวัด พบพระวิรัตน์ โพธิ์ทอง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 หมู่ที่ 8 ต.สระโบสถ์ อ.สระโบสถ์ ลพบุรี ใช้เชือกไนล่อนสีแดง ผูกโยงกับคานไม้หน้ากุฏิรัดคอตัวเองในลักษณะเท้าติดพื้น ซึ่งจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และการถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างลงมาเพื่อทำการชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นไม่พบบาดแผล คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6-7 ชั่วโมง
จากการสอบสวน น.ส.สมศรี (นามสมมุติ) ลูกสะใภ้พระวิรัตน์ เล่าว่าตนเองจะนำอาหารมาถวายพระวิรัตน์ ทุกเช้าและกลางวันสลับกันกับสามี โดย น.ส.สมศรี เล่าว่า ก่อนเข้ามาเห็นพระวิรัตน์ ลักษณะยืนหน้าประตูกุฏิ คล้ายแอบมองใครอยู่ จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าผูกคอมรณภาพแล้วจึงได้ไปบอกกับพระที่กำลังจะฉันอาหารให้มาดู ก่อนโทรบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบภายในกุฏิพบจดหมายเขียนด้วยลายมือพระวิรัตน์ลงในสมุดข้อความ “กูรักมึงว่ะ ลาก่อน” และมียารักษาโรคอีกจำนวนหนึ่งวางอยู่
พระลูกวัดโชคอำนวยธรรม ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพระวิรัตน์ ได้มาขอบวชเป็นพระได้ประมาณ 8 เดือน ทำกิจวัตรประจำวันปกติ ซึ่งพระวิรัตน์มีอาการเหม่อลอย เศร้าซึม ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เดินไม่ค่อยสะดวก บิณฑบาต และรับกิจนิมนต์ไม่ค่อยไหว ต้องใช้ไม้วอกเกิ้ล จึงต้องมีผู้มาถวายอาหารทุกเวลา ซึ่งจากการสอบถาม น.ส.สมศรี ลูกสะใภ้ ให้การว่าพระวิรัตน์ หนีมาบวชเนื่องจากภรรยา (แม่สามี) หนีไปมีแฟนใหม่ ทำให้คิดมากตัดสินใจหนีมาบวช ซึ่งระยะหลังเห็นมีอาการเหม่อลอย เศร้าซึม คงตัดใจไม่ได้ ยังคงคิดถึงภรรยาจนคิดสั้นผูกคอมรณภาพคากุฏิดังกล่าว ทั้งนี้สารวัตรเวรได้นำศพส่งพิสูจน์ที่ รพ.โคกสำโรงอีกครั้ง ก่อนมอบร่างให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
