เวลา 14.05 น. วันที่ 14 ก.ค. 63 ตำรวจ สภ.เมือง ลพบุรีได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนปีนเสาสัญญาณโทรศัพท์ ที่หมู่ที่ 8 ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง ลพบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทีมเจรจาต่อรอง และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย อ.พระพุทธบาท สระบุรี พร้อมอุปกรณ์ในการกู้ชีพช่วยเหลือ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งลพบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นเสาสัญญาณโทรศัพท์ เอไอเอส ความสูงสุดประมาณ 70 เมตร พบหญิงสูงวัย ห้อยโหนอยู่บนเสาสัญญาณอยู่ที่ความสูงประมาณ 50 เมตร เป็นที่หวาดเสียวแก่ผู้พบเห็น ซึ่งหญิงสูงวัยคนดังกล่าว สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว สวมถุงมือ และหมวกแบบไอ้โม่ง ร้องให้คร่ำครวญเสียงดังลั่น จับใจความได้ว่า”ปุ้ยมารับแม่ด้วยๆ “โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชุดเจรจาต่อรองใช้เครื่องขายเสียงในการเจรจา เพื่อทราบถึงต้นเหตุ และสิ่งที่ต้องการ จนเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง หญิงคนดังกล่าวมีท่าทีอิดโรย เนื่องจากแสงแดดที่ร้อนระอุ และยังคงร้องไห้เสียงดัง โดยปีนขึ้นปีนลง ยืนกอดเสา นั่งกอดเสาอยู่โดยไม่มีท่าทีที่จะลงตามคำร้องขอของเจ้าหน้าที่
ชุดเจรจาต่อรอง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงได้ตัดสินใจปีนเสาขึ้นไปเพื่อสอบถามและช่วยเหลือ แต่หญิงคนดังกล่าวไม่ยอมให้เข้าใกล้ หากไม่เชื่อจะกระโดดลงมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องถอย และทำการกางเบาะลมเสริมด้านล่าง จนเวลาผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง หญิงคนดังกล่าวได้นั่งกอดเสานิ่งเฉย น.ส.ลินดา หรือปุ้ย ทอสาย อาย 32 ปี บุตรสาวที่เดินทางมาจากจังหวัดอยุธยา หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อไป เดินทางมาถึง เมื่อเห็นแม่ปีนเสาได้ร้องให้ ตะโกนบอกแม่ให้ลงมา ลูกมาหาแม่แล้ว เมื่อหญิงคนดังกล่าวได้ยินเสียงลูกจึงมีท่าทีชะงัก ก่อนที่จะค่อยๆ ปีนลงมาหาเจ้าหน้าที่ ด้วยท่าทีอิดโรย เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถรับตัวอยู่ในอาการปลอดภัยหญิงคนดังกล่าวได้เป็นลมสลบอยู่บนอากาศ เจ้าหน้าที่ต้องรับตัวค่อยพยุงลงมาอย่างทุลักทุเล
น.ส.ลินดา ทอสาย อาย 32 ปี บุตรสาวกล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่าผู้ที่ปีนเสาเป็นแม่ชื่อนางชุตินันตพร นันธชาติ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/3 หมู่ที่ 3 ต.เจ้าปลุก อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา อาชีพหาลูกกระรอก กระแต ตามต้นไม้ทุกพื้นที่ เพื่อนำไปขายให้ลูกค้าที่ชื่นชอบ ได้เดินทางมาตั้งแต่เช้าด้วยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน กบษ-667 อ่างทอง พร้อมอุปกรณ์การหาลูกกระรอก กระแต ซึ่งตนเองและครอบครัวได้ห้ามแม่ว่ามันไม่ดี บาป พรากลูกพรากแม่เขา ขอให้แม่เลิกอาชีพนี้ แต่แม่ไม่ยอมฟังใคร ดื้อรั้นจนต้องปล่อยเลยตามเลย น้องปุ้ย ยังเล่าอีกว่าเมื่อ 3 เดือนก่อน จู่ๆ แม่กระโดดไปบนถนนให้รถเฉี่ยวชนหวังฆ่าตัวตาย เดชะบุญที่รถหักหลบได้ทัน อีกทั้งแม่ยังพยายามผูกคอตัวเองถึง 3 ครั้ง แต่มีญาติ เพื่อนบ้าน และชาวบ้านช่วยไว้ได้ทันทุกครั้ง จนมาก่อเหตุปีนเสาสัญญาณโทรศัพท์เพื่อฆ่าตัวตายในครั้งนี้ที่ลพบุรี ซึ่งระยะหลังแม่มักมีอาการแปลกๆ เศร้าซึม เหม่อลอย และชอบตะโกน “ปุ้ยมารับแม่ด้วย” ซึ่งอาจเป็นเพราะเวรกรรมที่แม่ชอบพรากลูก พรากแม่ลูกกระรอก กระแต มานับไม่ถ้วน ขอร้องจนไม่รู้จะพูดอย่างไรแม่ก็ไม่เชื่อ
ชาวบ้านในที่เกิดเหตุเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ นางชุตินันตพร ผู้ก่อเหตุได้เดินมาภายในซอยหมู่บ้าน โดยจอดจักรยานยนต์ เสียบกุญแจคาไว้บนถนน โดยมีไม้ยาวประมาณ 5 เมตร 4-5 อัน ถุงผ้าหน้ารถ มีดและกล่องใส่อาหาร ซึ่งคิดว่านางชุตินันตพร มาหาสอยพืชผัก หรือไข่มดแดง โดยไม่รู้ว่ามาหาลูกกระรอก กระแต จู่ๆ ได้ปีนข้ามรั้วเสาสัญญาน ปีนขึ้นเสาไปในความสูงประมาณ 50 เมตร ร้องให้เสียงดัง ตะโกนเรียกหาพอจับใจความได้ว่า “ปุ้ยมารับแม่ด้วยๆๆๆ” จึงได้โทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ด้านนายชัชนันท์ พงษ์พานิช จนท.เจรจาต่อรอง เล่าว่าบนความสูงเช่นนี้ ใครตกลงมาก็ต้องเสียชีวิตแน่นอน ซึ่งการเจรจาต้องใช้ความอ่อนนุ่ม หว่านล้อมเพื่อให้ผู้ก่อเหตุสบายใจ และพร้อมที่จะให้เข้าช่วยเหลือ เราจะไม่เข้าชาร์ท เนื่องจากอันตรายเกินไปสำหรับทุกคน เคสนี้ถือว่ายาก เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นหญิงสูงวัย มีอาการเหนื่อยล้า จากปีนเสาอยู่นานหลายชั่วโมงจนเป็นลมสลบกลางอากาศ หากช่วยเหลือไม่ทันมีโอกาสตกลงมาเสียชีวิตแน่นอน
