ชาวบ้านที่ลพบุรีผวา หลังกลุ่ม นศ.แจ้ง จนท.พบจระเข้ยาว 2 เมตร 2 ตัว ว่ายในคลองชัยนาท-ป่าสัก ล่าสุดยังหาตัวไม่เจอ ด้านประมงลพบุรี เตือนคนริมน้ำระวัง จะใช่หรือไม่ก็อันตราย ถ้าเจอตัวให้แจ้งเจข้าหน้าที่ ล่าสุดเช้าวันที่ 11 ส.ค. 63 มีชาวบ้านพบจระเข้ตัวเขื่องลอยคอในคลองอีกตัว
จากกรณีวานนี้ (9 ส.ค.) ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.นาตยา อาทรสุพอดู อายุ 17 ปี พร้อมกับเพื่อนนักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี ว่าตนเองกับเพื่อนพบจระเข้ตัวยาวประมาณ 2 เมตร จำนวน 2 ตัว ว่ายน้ำคู่ขนานกันในคลองชัยนาท-ป่าสัก บริเวณเชิงสะพานชลประทานที่ 9 ต.ป่าตาล อ.เมือง ลพบุรี จระเข้ทั้งสองตัวว่ายตามน้ำมุ่งหน้าไป อ.หนองโดน จ.สระบุรี
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 63 เวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ เชิงสะพานชลประทานที่ 9 พบนายสุชาติ พิลาเดช ประมงจังหวัดลพบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ประมงชุดชำนาญการในการปราบจระเข้ กว่า 10 นาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดลพบุรี นำเรือท้องแบบติดเครื่องยนต์ จำนวน 2 ลำ ออกลาดตระเวน หลังจากเมื่อเช้าวันที่ 11 ส.ค. 63 มีชาวบ้านพบจระเข้ยาวประมาณ 2 เมตรเศษ ลอยคออยู่ในคลองชัยนาท-ป่าสัก ไม่ไกลจากเดิมที่นักศึกษาสาวพบ โดยมีประชาชนชาวจังหวัดลพบุรี ให้ความสนใจ และเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่จับจระเข้ให้จงได้
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง บุกเดี่ยวร้านทองชิงสร้อยคอหนีสุดท้ายถูกรวบทันควัน
- สองพ่อลูก รอดตายปาฏิหาริย์ หลังกระบะเสียหลักพลิกคว่ำเกือบตกสะพานต่างระดับ เชื่อบารมีพระเครื่องติดตัวช่วย
- รวบแล้ว ไอ้โชค มือฆ่าคนเลี้ยงวัววัย 59 ฉุนมาขุดจิ้งหรีดในสวนที่เช่าไว้ ก่อนหนีไปซ่อนในบ่อขยะ
- เข้มขีดสุด! เปิดเทอม2 - "บิ๊กศาล" ห่วงมือที่สาม/แจ้งเตือนถี่
นายสุชาติ พิลาเดช ได้พาผู้สื่อข่าวล่องเรือไปตามลำคลองชัยนาท-ป่าสัก ที่น้ำเริ่มเอ่อล้นตลิ่ง เนื่องจากมีปริมาณฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จากสะพานชลประทานที่ 9 อ.เมือง ลพบุรี ล่องตามน้ำไปถึง อ.หนองโดน จ.สระบุรี โดยการส่องไฟฉายหาจระเข้ ซึ่งอาจจะหลบซ่อนอยู่ตามพงหญ้าริมคลอง โดยประมงจังหวัดกล่าวว่า เมื่อไฟฉายส่องกระทบตาของจระเข้ ตาจะออกเป็นสีแดงคู่ ซึ่งตลอดระยะเสนทาง พบเพียงตัวเงินตัวทองที่อาศัยในพงหญ้าริมคลอง จ้องกินปลา และสัตว์น้ำตามริมคลองหลายตัว ยังไม่พบจระเข้ทั้งสองตัว ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งฐานปฎิบัติการเตรียมพร้อม โดยจัดกำลังเฝ้าระวัง โดยใช้ท้องแบนพร้อมชุดไล่ล่าของหน่วยฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เป็นกำลังเสริม หากมีการแจ้งข่าวเตือนภัยจากผู้ที่พบเห็นไว้แล้ว
ด้าน นายมนัส พรมจาด อายุ 50 ปี นายท้ายเรือประมงจังหวัดลพบุรี ผู้ที่เชี่ยวชาญในการจับจระเข้น้ำจืด เล่าว่าหากจระเข้ที่พบหลุดเล็ดลอดออกมาจากฟาร์ม ตัวขนาด 2 เมตรถือว่าอันตราย หากเผชิญหน้ากับคน ซึ่งโดยปกติจระเข้เลี้ยงหากหลุดมาจากฟาร์ม ก็จะหาทางกลับ แต่ถ้ากลับไม่ได้ก็จะหากินตามแนวป่าริมคลอง กลางจะวันนอน กลางคืนจะออกหากิน หากหิวจัดดุร้ายแน่นอน ประชาชนควรระมัดระวัง
ทั้งนี้นายสุชาติ พิลาเดช ประมงจังหวัดลพบุรี กล่าวว่ายังไม่ได้รับรายงานว่าชาวบ้านเจอจระเข้ เมื่อเช้าใกล้กับจุดที่น้องๆ นักศึกษาพบเมื่อวันก่อน ซึ่งทางประมงจังหวัดลพบุรีไม่ได้นิ่งนอนใจ เพื่อความสบายใจของประชาชนทางประมงจังหวัดลพบุรีจะติดตามข่าวทุกระยะ และขอ ยืนยันว่า ได้ตรวจฟาร์มจระเข้ ในพื้นที่ตลอดระยะเวลา ไม่มีจระเข้เล็ดลอดออกมาได้แน่นอน ที่น้องๆ เห็นอาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ตามที แต่ขอเตือนพี่น้องประชาชนริมคลองชัยนาท-ป่าสัก ในรัศมีประมาณ 5-10 กิโลเมตร ระหว่าง ต.ป่าตาล อ.เมือง ลพบุรี และ อ.หนองโดน จ.สระบุรี โดยเฉพาะชาวประมงพื้นบ้าน ชาวนา และผู้ที่อาศัยอยู่ริมคลองเขตพื้นที่ลพบุรี-สระบุรี ให้ระมัดระวัง คาดว่าจระเข้ทั้งสองตัวที่พบในคลองอาจหิวโซ และมีความดุร้าย หากผู้ใดพบเห็นให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ประมงโดยด่วนที่สุด
วันที่ 12 ส.ค. 63 เวลา 08.00 น. หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ระดมสรรพกำลังไล่ล่าจระเข้ ที่ลอยในคลองชัยนาท-ป่าสัก ตามคำบอกเล่าของนักศึกษาที่พบเมื่อเย็นวันที่ 9 ส.ค. จำนวน 2 ตัว และชาวบ้านพบอีกจำนวน 1 ตัว ตัวเมื่อเช้าวันที่ 11 ส.ค. 63 ทางประมงได้ขอกำลังสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงอาสาสมัครฯ ต่างๆ ลงพื้นที่ในรัศมี ไม่เกิน 10 กิโลเมตร ทั้งทางเรือล่องตามลำคลองทั้งสองฝั่ง และอาสาสาสมัครฯ เดินเท้าตามแนวถนนริมฝั่งคลองที่คาดว่าจระเข้อาจซ่อนตัว ในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ก่อนเวลา 24.00 น. จึงได้ถอนกำลังในการไล่ล่า ค้นหา ซึ่งยังไม่พบร่องรอยของจระเข้แต่อย่างใด
ทั้งนี้นายมนัส พรมจาด อายุ 50 ปี นายท้ายเรือประมงจังหวัดลพบุรี ผู้ชำนาญการในการจับจระเข้น้ำจืด พร้อมพวกได้ใช้สปอร์ตไลท์ ไฟฉายส่องตามแนวป่าริมคลองป่ารกทึบ ทั้งสองฝั่ง ที่คาดว่าน่าจะเป็นแหล่งกบดานของจระเข้ แต่เนื่องจากปริมาณน้ำเริ่มเอ่อล้นพ้นแนวป่า จากฝนที่ตกลงอย่างอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดน้อยลง จึงได้ยุติการค้นหา ซึ่งนายมนัส ยังกล่าวว่า จระเข้อาจจะยังอยู่ไม่ไกลจากที่พบครั้งแรกมากนักตามสัญชาติญาณ แต่ถ้าหากมีสิ่งรบกวน หรือหาอาหารไม่ได้ก็จะล่องลอยไปตามคลองต่อไป จนกว่าจะเจอแหล่งกบดานน้ำนิ่งมีอาหารชุกชม จึงขอเตือนประชาชนตามแนวริมคลอง ประมงพื้นบ้าน และชาวนาให้ระมัดระวังจากอันตรายจากจระเข้ที่คาดว่าจะดุร้ายจากความหิวโซ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: