นักบุญเดือดเงินกฐินไม่ถึงล้านอาจารย์ขอคืน ทำให้วงการผ้าเหลืองสั่นสะเทือน โดยเฉพาะสายบุญต่างๆ ได้แสดงความคิดเห็นถึงเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งตั้งข้อสอบถามต้นสายปลายเหตุ บางรายด่าทอด้วยความคับแค้นใจที่คนไปทำบุญกลับได้ผลเป็นลบ สร้างความขุ่นข้องหมองใจไปทั่วประเทศ จนทำให้ผู้ปกครองสงฆ์จังหวัดลพบุรีมี หนังสือสั่งพักตำแหน่งหน้าที่เจ้าอาวาสวัดดัง ยุติการปฎิบัติหน้าที่ทันที ที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์
จากกรณีที่มีการนำเสนอลงภาพในโลกโซเชียลการที่ พระอธิการวราวุธ ชินวโร เจ้าอาวาสวัดดงสวอง ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี ซึ่งได้ปฏิเสธเงินที่มีผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันอนุโมทนาทำบุญทอดกฐินจำนวนเงินกว่า 8 แสนบาท ซึ่งเจ้าอาวาสวัดไม่พอใจเพราะได้เงินที่มาร่วมทำบุญไม่ถึง 1 ล้านบาทพร้อมกับเรียกประธานกฐินให้มารับเงินคืนไป โดยไม่สนใจญาติโยมที่ตั้งใจทำบุญ โดยส่งผลให้การทำบุญในครั้งนี้กลายเป็นความทุกข์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยทางพระอธิการวราวุธ ชินวโร เจ้าอาวาส ก็ได้ออกมารับว่าทำไปเพราะเข้าใจผิด พร้อมทั้งกล่าวคำขอโทษกับเหตุการณ์ทั้งหมดไม่คิดว่ามันจะบานปลายลุกลาม โดยจะขอรับผิดชอบหาเงินมาทดแทนส่วนที่ขาดหายไปในการทอดกฐินในครั้งนี้จนครบ โดยมีพระชั้นผู้ใหญ่ที่ทราบข่าวมาทำการสอบสวนในเบื้องต้น
สำหรับความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวทราบว่าในเบื้องต้นทาง เจ้าคณะจังหวัดได้สั่งการให้พระครูสิริจริยาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามวัดเสาธงทอง ร่วมประชุมและให้พระมหาณรงค์ วฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดตองปุ เจ้าคณะตำบลท่าแค- ถนนใหญ่ ได้ทำหนังสือเป็นคำสั่งเจ้าคณะตำบลท่าแค- ถนนใหญ่ ที่ 1 / 2563 เรื่องให้พระสังฆาธิการพักจากตำแหน่งหน้าที่เจ้าอาวาสวัดดงสวอง ซึ่งในหนังสือดังกล่าวระบุสรุปว่า”กระแสข่าวสื่อออกโซเชียล กรณีดังกล่าวเป็นการประพฤติละเมิดจริยาพระสังฆาธิการทำให้เกิดความเสริมเสียแก่คณะสงฆ์ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎหมายเถรสมาคม ฉบับที่ 24 โดยให้ พระอธิการวราวุธ ชินวโร เจ้าอาวาสวัดดงสวอง พักการปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดดงสวอง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าคณะสงฆ์เห็นสมควร
โดยในเรื่องดังกล่าวยังคงได้รับความสนใจจากเหล่าพุทธศาสนิกชนกันเป็นอย่างมาก รวมทั้งผู้ที่สูงอายุหลายคนบอกว่าตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ขณะที่ทางคณะสงฆ์เองก็ยังคงจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายขอให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าใจด้วย รวมทั้งขออย่าได้มองว่าพระสงฆ์จะเลวร้ายไปหมดเพราะจะทำให้พระที่ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ได้เสียหายไปด้วย โดยเฉพาะในช่วงนี้ก็มีผู้ที่ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนาถ้าพุทธศาสนิกชนไม่สืบทอดพระพุทธศาสนาหรือมองว่าคณะสงฆ์ไม่ดีก็จะทำให้พระพุทธศาสนาได้รับความเสียหายเสื่อมศรัทธาลงไป
ด้านคุณสุรินทร์ บุญเสริม อายุ 60 ปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลเขาสามยอด ประธานกฐิน ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ทราบถึงเรื่องเจ้าอาวาสถูกพักจากตำแหน่ง เป็นหน้าที่ของสงฆ์ที่จะต้องพิจารณาถึงเหตุดังกล่าว ซึ่งตนเองและครอบครัว พร้อมทั้งสายบุญ จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกคนเข้าใจในเจตนาของพวกเรา ซึ่งไม่มีสิ่งใดซ่อนเร้นแอบแฝง พวกเรายังจะยึดมั่นในพุทธศาสนาดังเดิม ตอนนี้สบายใจเนื่องจากไขข้อข้องใจให้กับพี่น้องประชาชนไปได้ทุกสิ่ง
เช่นเดียวกับ น.ส.สุดารัตน์ มีโพธิ์กลาง อายุ 27 ปี สายบุญอีกคนที่ได้เข้าร่วมทำบุญกฐินในวันที่ 24 ต.ค.63 โดยการออกทานร่วมกับผู้อื่นกว่า 50 ร้าน ซึ่งตนเองตำส้มตำ ยอมรับว่าคนเยอะมาจนล้นวัด ซึ่งมีทั้งผู้ที่มาร่วมทำบุญ และผู้ที่มาออกโรงทาน ที่สำคัญประชาชนในพื้นที่บริเวณวัด และต่างพื้นที่ ได้เข้ามารับอาหารจากโรงทาน ซึ่งมีมากกว่าผู้ที่มาทำบุญแน่นอน ซึ่งตนเองและทุกโรงทานอาหารทุกชนิดหมดเร็วมาก ซึ่งเจ้าอาวาสอาจจะเห็นว่าผู้ที่มาที่วัดมาทำบุญ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่มารอรับอาหาร ซึ่งเป็นแบบนี้แทบทุกวัด
