จากโซเชียลเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกภาพและคลิปของรถกระบะจำนวน 3 คัน ที่จอดติดสัญญานไฟจราจรบริเวณสี่แยกเอราวัณ ถนน.พหลโยธิน1เมื่อวันที่ 1 พ.ย.63 โดยรถทั้งสามคันดังกล่าวได้เบิ้ลเครื่องเสียงดังลั่น ก่อนออกตัวได้เบิร์นยาง และปล่อยควันดำโขมงเต็มถนนจนผู้ที่ใช้เส้นทางต้องหยุดรถรอให้ควันจางก่อนที่จะมีเสียงด่าทอสาปแช่งดังกระหึ่ม โดยมีพลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ ในเบื้องต้นมีกล่าวแบบตักเตือน การกระทำแบบนี้อย่าหาทำ คนอื่นเดือดร้อน #ตังมึงรถมึง#ควันรถมึงแต่เพื่อนร่วมทางดม หลังจากโพสต์คลิปเพียงไม่นาน ทัวร์ลงทันทีต่างเข้ามาคอมเม้นท์ด้วยถ้อยคำที่เดือดดาล และหยาบคาย ทั้งนี้ตำรวจ สภ.เมือง ลพบุรี ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รีบตรวจเช็คทะเบียนทั้ง 3 คันเมื่อทราบผู้ครอบครอง รุดลงพื้นที่สามารถรวบกระบะทั้ง 3 คันได้ โดยทั้งหมดเป็นวัยรุ่นอยู่หมู่บ้านเดียวกัน
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 63 พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปราถนา แผ่นผา รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมือง ลพบุรี พ.ต.ท.บรรเทิง กลมแก้ว รอง ผกก.จร.สภ.เมืองลพบุรี และพ.ต.ท.ณัฎฐพล ศรีวิเชียร สว.จร.สภ.เมือง ลพบุรี ติดตามรถทั้ง 3 คัน ให้จงได้ จากนั้นจึงได้ตรวจสอบทะเบียนจากกรมการขนส่ง จนสามารถทราบชื่อผู้ครอบครอง จึงได้เดินทางไปยังหมู่ที่ 4 ต.สายห้วยแก้ว อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี
1.นายอนุศักดิ์ โครตคำ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 17/4 หมู่ที่ 4 ต.สายห้วยแก้ว อ.บ้านหมี่ ลพบุรี ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน ถต-9440 กรุงเทพมหานคร
2.นายณัฐพงศ์ เนตรนิล อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 256 หมู่ที่ 4 ต.สายห้วยแก้ว อ.บ้านหมี่ ลพบุรี ขับขี่รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบอรนซ์-เทา หมายเลขทะเบียน บร-7114 กำแพงเพชร
และ 3.นายเอกชัย เชื้อรื่น อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/1 หมู่ที่ 4 ต.สายห้วยแก้ว อ.บ้านหมี่ ลพบุรี ขับจี่รถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว มายเลขทะเบียน กพ-2476 ลพบุรี จึงได้ควบคุมตัว พร้อมยานพาหนะมายัง สภ.เมือง ลพบุรี
ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ลพบุรี ได้ทำการสอบสวนทราบว่ารถยนต์กระบะทั้ง 3 คันกลับมาจากงานพิธีมงคลสมรส ขณะเดินทางกลับได้ใช้เส้นทางดังกล่าวลักษณะขับขี่หยอกล้อกันมาตลอดเส้นทาง และมาหยุดติดสัญญานไฟจราจร 4 แยกเอราวัณ ในระหว่างรอสัญญานไฟเขียวปรากฏว่ารถทั้ง 3 คันเร่งเครื่องยนต์เสียงดังสนั่นลั่นถนนควันคำโขมงท่วมถนน ก่อนออกตัวไปด้วยความเร็วทิ้งกลุ่มควันดำจากท่อไอเสียปกคลุมพื้นผิวการจราจรเป็นกลุ่มกว้าง ทั้งรถเล็กใหญ่ รวมถึงรถจักรยานยนต์ที่ตามหลังต่างต้องหยุดรถเกรงจะเกิดอันตราย รอจนควันจางหาย ท่ามกลางเสียงด่า สาปแช่งตามหลังดังกระหึ่ม
ทั้งนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมือง ลพบุรี ได้แจ้งข้อหากับเจ้าของรถทั้ง 3 ราย ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท รับสารภาพโทษจำคุกรอลงอาญา
ส่วนรถกระบะหมายเลขทะเบียน บร-7114 กำแพงเพชร และรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน กพ-2476 ลพบุรี แจ้งข้อหาเปลี่ยนแปลงสภาพรถ และรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน ถต-9440 กรุงเทพมหานคร แจ้งข้อหาใช้รถที่มีค่าควันดำเกินกว่ากฎหมายกำหนด ค่าควันดำวัดได้ 60.2 เปอร์เซนต์
