แม่เฒ่าวิ่งหนีตาย! ลูกชายคลั่ง เมายาบ้าไล่ทำร้ายร่างกาย เผยยาเสพติดระบาดหนักในพื้นที่ เคยพาไปบำบัดรักษาหลายที่แล้วแต่เลิกไม่ได้ ระบุไม่ได้หลับไม่ได้นอน กลัวลูกรักทำร้ายครั้งนี้หนักขู่เผาบ้าน
วันที่ 1 ธ.ค.63 ณ. ที่ว่าการอำเภอเมือง จ.ลพบุรี นางบุญส่ง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 75 ปี ได้วิ่งกระหืดกระหอบมาด้วยอาการตื่นตระหนก พร้อมกล่าวกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองป้องกันว่า ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือตนเองด้วย เนื่องจากลูกชายเกิดอาการคลุ้มคลั่งอย่างหนักจากอาการอยากยาเสพติด โดยได้ทุบตีทำร้ายร่างกายตนเองจนบาดเจ็บ และจะใช้อาวุธทำร้ายหากไม่ได้เงินไปซื้อยาเสพติด ตนเองได้วิ่งหลบหนีมาได้ เนื่องจากเคยโดนทำร้ายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งนี้ขู่จะเผาบ้านอีกด้วย
ฝ่ายปกครองป้องกันอำเภอเมืองลพบุรี จึงไประสานนายศักดิ์ชาย เสตานุช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ทะเลชุบศร พร้อมชุดเฉพาะกิจทะเลชุบศร ลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุทันที พบนายสุรสิทธิ์ ชิตสุข หรือนายเอ็ม อายุ 33 ปี ลูกชายของนางบุญส่ง ผู้ที่อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งได้เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้พยายามกระโดดหลบหนีไปหลังบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ไวกว่าคว้าตัวไว้ได้พร้อมของกลางเป็นยาบ้าหลงเหลืออยู่ 2 เม็ด อุปกรณ์การเสพหลายชิ้น จึงได้ทำการสอบสวน ในเบื้องต้น ซึ่งนายเอ็มยังอยู่ในอาการเมายาอย่างหนัก พูดจาเพ้อเจ้อ วกวน ด่าทอเจ้าหน้าที่ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย
สอบถาม นางบุญส่ง แม่กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยดวงตาที่แดงกล่ำว่า ตนไม่คิดว่าเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้จะเกิดกับตนในวัยใกล้ฝั่ง ตนมีลูกชายคนเดียวและรักดั่งแก้วตาดวงใจ ในวัยเด็กนายเอ็มเป็นเด็กดี น่ารัก ขยันเรียน จนเมื่ออายุ 17-18 ปี ในพื้นที่มีการแพร่ระบาดยาเสพติดอย่างรุนแรง จนถูกทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ระบุเป็นพื้นที่สีแดงใน จ.ลพบุรี “ทำให้ลูกชายแม่หลงผิด คบเพื่อนติดยา โดยแม่ได้ทำทุกวิถีทาง นำตัวลูกไปทำการบำบัดรักษาจนหายขาด แต่เมื่อกลับมาอยู่บ้านลูกก็หวนกลับไปเสพยาอีก เนื่องจากยาบ้าหาง่าย ราคาถูก ซึ่งครั้งนี้รุนแรงถึงขนาดขาดสติ แม่เคยนำส่งโรงพยาบาลศรีธัญญา เพื่อรักษาอาการจิตเวชร่วมปี จนคิดว่าเป็นปกติ จึงได้นำกลับมาเพื่อทำการรักษาบำบัดที่บ้าน ซึ่งไม่เป็นอย่างที่คิด ลูกมีอาการคลุ้มคลั่งเมื่ออยากยา ตบตี ทำร้ายร่างกายแม่จนบาดเจ็บ และเริ่มใช้อาวุธเพื่อทำร้ายหากไม่ได้เงิน แม่ไม่ได้หลับไม่ได้นอน กลัวลูกจะมาทำร้ายแม่และคนในครอบครัว จึงต้องตัดใจให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการ” นางบุญส่ง กล่าว
นางบุญส่งกล่าวต่อว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดี ครั้งที่เท่าไหร่แล้วจำไม่ได้ อยากวิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการ ขอให้ลูกชายตนได้หลุดพ้นจากทาสยาเสพติดด้วย ตนยินดีที่จะหาเงินมาจ่ายหากมีค่าบริการ เพียงขอให้ลูกได้กลับมาเป็นเช่นเดิม และฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ขอให้ดำเนินการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง เนื่องจากขณะนี้ในพื้นที่มีการแพร่ระบาดยาเสพติดอย่างหนัก ขอให้มีเงินเพียงไม่กี่นาทีก็ได้ยามาเสพแล้ว อีกทั้งยาบ้าขณะนี้ราคาถูกกว่าบุหรี่
ทางด้านนายศักดิ์ชาย เสตานุช ผญบ.หมู่ที่ 1 ต.ทะเลชุบศร กล่าว่าตนเอง ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้ทำการจับกุมนายเอ็มมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ซึ่งทาแต่ละครั้งจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากนำไปบำบัด 45 วัน 90 วัน 3-5-7 เดือน ในเรือนจำกลางจังหวัดลพบุรี ครั้งสุดท้ายคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายแม่จำคุก 7 เดือน พ้นโทษออกมาไม่นานกลับมาเป็นเช่นเดิม ครั้งนี้ขอเงินแม่ไม่ได้ใช้ร่มแหลม ไม้เหลาแหลมเป็นอาวุธไล่แทงแม่จนหนีกระเจิง พร้อมจุดไฟเผาเสื้อผ้าไปแล้ว พร้อมข่มขู่หากไม่ได้เงินจะเผาบ้าน จนแม่ต้องหาเงินมาให้ 200 บาท ไปซื้อยามาได้ 4 เม็ด เสพไปแล้ว 2 เม็ดอาการถึงสงบลงได้
ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวนายเอ็มไปส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ลพบุรี ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าก่อนเทศกาลปีใหม่ และครั้งนี้คงจะติดคุกนาน อยากจะกราบเท้าแม่เพื่อขอโทษที่ทำร้าย ทุบตีแม่สักครั้งไหม นายเอ็มยอมทำตามก้มลงกราบเท้าแม่ ทำให้นางบุญส่งถึงกับน้ำตาไหลพราก ใช้มือลูบหัวพร้อมกล่าวกับลูกด้วยความรักว่าขอให้เลิกให้ได้ ขอให้เอ็มกลับมาเป็นลูกของแม่เหมือนเดิมได้ไหม รับปากแม่ได้ไหม ซึ่งนายเอ็มได้แต่เพียงพยักหน้าก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: