เพลิงไหม้กลางวันแสก ๆ กลางหมู่บ้านทำให้ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียงรวม 4 หลังคาเรือน ทางเจ้าหน้าที่ใช้เวลาควบคุมเพลิงนานกว่า 1 ชั่วโมงคุมเพลิงได้ค่าเสียกว่า 3 ล้านบาทพ่อเมืองรุดเยี่ยม
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 11 ธันวาคม 2563 พ.ต.ท.สราวุธ มหาชัย สว.สอบสวน ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยเหตุเกิดขึ้นที่กลางหมู่บ้านหนองระแหง หมู่ที่ 13 ต.บางลี่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี หลังจากที่ได้รับแจ้งได้รางานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นแล้วรีบเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย นายเดชวุฒิ นิลแย้ม นอภ.ท่าวุ้ง พ.ต.อ.ไพฑูร ตันเจริญรัตน์ ผกก.สภ.ท่าวุ้ง นอกจากนี้ยังได้ขอการสนับสนุนรถดับเพลิงแลรถบรรทุกน้ำในพื้นที่ข้างเคียงมาช่วยในการควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจุดลพบุรี
หลังจากที่ได้เดินทางมาถึงจุดที่เกิดตุพบประชาชนทีมีบ้านข้างเคียงช่วยกันนำน้ำสาดดับเพลิงเพราะมีบ้านที่อยู่ใกล้กันหลายหลัง แต่ก็ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้เพราะบ้านต้นเพลิงเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ก็ได้ช่วยกันนำผู้ที่อยู่ภายในบ้านออกมาและสิ่งของมีค่าออกมาไว้ยังที่ปลอดภัย โดยมีรถดับเพลิงและรถบรรทุกน้ำจากเทศบาลและ อบต.ข้างเคียงมาร่วมกันดับเพลิงจำนวน 10 คัน ขณะที่เพลิงได้โหมลุกไหม้บ้านเรือนข้างเคียงที่อยู่ติดกันอีก 3 หลังคาเรือน ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ในวงจำกัดได้
จากการตรวจสอบผลปรากฏว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวน 4 หลังคาเรือน โดยมีบ้านต้นเพลิงคือบ้านของ น.ส.สำเนียง อ่ำเจริญ อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 71 เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และ อสม. พร้อมกับลุกลามไปติดบ้านของ นายประสิทธิ์ เกลียวกลม อายุ 70 ปี บ้านเลขที่ 72 บ้าน น.ส วันเพ็ญ ทัศนะ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 73 และบ้าน น.ส.ปุณิกา ศรีศิริ บ้านเลขที่ 74 ทั้งหมดเป็นญาติกัน โดยเฉพาะบ้านของ นายประสิทธิ์ เกลียวกลม นั้นมีรถยนต์อเนกประวงค์ยี่ห้อ ฟอจูนเนอร์ ทะเบียน กท 7820 ลพบุรี ที่จอดอยู่ในบ้านและ รถ จยย.อีก 4 คันถูกไฟไหม้เสียหาย
โดยการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าในช่วงที่เกิดเหตุนั้นที่บ้านของ น.ส.สำเนียง อ่ำเจริญ ในช่วงที่เกิดเหตุได้ออกไปสำรวจกำจัดลูกน้ำยุงลายในหมู่บ้าน ซึ่งมีเพียง นางสำเภา อ่ำเจริญ อายุ 86 ปี มารดาที่ป่วยติดเตียง กับ พี่สาวอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งทางพี่สาวได้กลิ่นไหม้ที่ชั้นบนวิ่งขึ้นไปดูก็พบว่ามีไฟไหม้แล้ว จึงได้วิ่งลงมาตะโกนให้ญาติข้างบ้านนำมารดาออกมาในที่ปลอดภัย จากนั้นไฟก็ลุกไหม้อย่างรวดเร็วไปติดยังบ้านข้างเคียงไม่สามารถนำของมีค่าในบ้านออกมาได้เลย สำหรับสาเหตุของเพลิงไหม้ในเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจรค่าเสียหายประมาณ 3 ล้านบาทเศษ
หลังจากได้รับรายงาน นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.ลพบุรี และ นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี พร้อมคณะได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุและนำสิ่งของไปมอบมอบให้กับครอบครัวที่บ้านเรือนได้รับความเสียหาย รวมทั้งขอให้ทาง อบต.บางลี่ และทางอำเภอท่าวุ้งได้เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกจากนี้ทางจังหวัดก็จะได้ตรวจสอบหาทางให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการและประสานไปยังภาคเอกชนต่อไป
